วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

บ้านมีไม่นอน ไปนอนเต้นท์ ณ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น

อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จังหวัดสระบุรี 12-13 พ.ย 65



เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นวันที่คุณภรรยาได้หยุด เสาร์ - อาทิตย์ ซึ่งจะมีเดือนละ 1ครั้ง ดังนั้นแม่คุณก็อยากจะออกไปเที่ยว ก็ชวนไปทั่ว ทั้งลูกสาวทั้ง 2 คนก็ไม่มีใครสะดวกจะไปด้วยเลย คนเล็กก็บอกว่าจะต้องส่ง 


งานให้อาจารย์วันจันทร์หน้า ต้องรีบปั่นงาน ส่วนคนโตที่พึ่งได้งานทำ ก็บอกว่าเพื่อนนัดกันไปฉลองที่เขาได้งานทำแล้วกันที่ฟิวเจอร์ฯ นัดเอาไว้แล้วด้วย คุณแม่ก็เลยอกหัก แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาเตรียมข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งเต้นท์ และอื่นๆ ที่จำเป็น จากนั้นก็หันมาหาผม ซึ่งก็กะเอาไว้อยู่แล้ว 555 เลยถามว่าจะไปกางเต้นท์ที่ไหนล่ะ ภรรยาผมก็บอกว่าแถวสระบุรี นครนายกนี่แหละพอแล้ว ไม่ต้องไปไกลมาก เลยถามว่าที่ไหนละ น้ำตกเจ็ดคตโป่งก้อนเส้า หรือว่าที่ไหน ซึ่งภรรยสผมก็บอกว่าที่ไหนก็ได้ เอาเป็นว่าตอนนี้ชีวิตต้องการธรรมชาติ (โอ้โห... ชีวิตต้องการธรรมชาติ 555)   


ก็บอกว่าเอาไว้บ่ายๆ ค่อยไปแล้วกัน ถ้าสระบุรีไม่ไกลมาก ขับรถชั่วโมงครึ่งก็ถึงจากที่บ้าน ภรรยา ผมก็ถามว่าแล้วจะไปกางที่ไหนล่ะ ก็เลยบอกว่าถ้าให้ผมเป็นคนเลือก ก็ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น อยู่แค่ในตัวเมืองสระบุรีเอง ถ้าไปน้ำตก 7-คต ต้องเลยขึ้นไปที่อำเภอแก่งคอย หรืออีกประมาณ 40-50กม.


ภรรยา ผมก็สอบถามว่าเคยไปมาแล้วไม่ใช่รึ มันไม่มีอะไรเลยนะเป็นที่โล่งๆ เฉยๆ และก็อยู่ติดถนนด้วยจำได้อยู่ ผมเลยบอกว่าก็ใช่นะ แต่ก็ไม่ติดถนนขนาดนั้น และนั่นก็ 10กว่าปีมาแล้วตั้งแต่ลูกๆ ยังอายุ 4-5ขวบเอง นี่ผ่านมานานแล้ว เขาก็น่าจะปรับปรุงใหม่แล้วหรือเปล่า เข้าไปดูรีวิวเขาก็บอกว่าโอเคสวยอยู่ มีอ่างเก็บน้ำด้วย สามารถปันจักรยามรอบอ่างเก็บน้ำได้ด้วย ภรรยาผมเขาก็เงียบไป

จากนั้นประมาณ เกือบบ่ายโมงหลังจากที่ทยอยขนของที่คุณเธอเอามากองๆ ไว้เข้าไปเก็บเอาไว้ในรถแล้ว ก็ไปบอกภรรยาว่าจะไปกันหรือยัง ปรากฏว่าหลับซะงั้น... แถมบอกว่า ก็ขับรถแค่ ชั่งโมงครึ่งเองไม่ใช่รึ ค่อยออกซักบ่าย 3โมงก็ได้ ไปตอนนี้ก็ร้อนอ่ะซิ... งงไหมครับ เอาใจลำบากจริงๆ ผู้หญิงนี่ เมื่อ 3ชั่งโมงก่อนยังกะตือรือล้นอยากไปหาธรรมชาติมาก หรือที่ที่เราแนะนำจะไม่ถูกใจ แต่ประมาณบ่ายสองกว่า คุณภรรยาก็ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำและก็บอกว่าให้ออกเดินทางได้แล้ว จึงขับรถออกจากบ้านมายังไม่ทันถึงไหนเลย ก็แวะตลาด เพื่อซื้อเสบียงขึ้นไปทำกินกัน ทั้งมื้อเย็น และมื้อเช้าของวันพรุ่งนี้ แถมยังได้แวะอีก 2 ร้านซะดวกซื้อ ตลอดทางไปอุทยาน เพราะลืมนั่น ลืมโน่น ลืมนี่ 555 ทั้ง กย. 15 น้ำแข็ง เครื่องดื่มก็ต้องไปซื้อใกล้ๆ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวละลาย เดี๋ยวไม่เย็น กว่าจะถึงก็ 5โมงเย็น 


ปรากฎว่าที่ในอุทยานมีร้านค้าสวัสดิการ มีทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการแคมปปิ้งจำหน่าย รวมถึงอาหารต่างๆ ด้วย แต่ปัญหาที่สำคัญก็คือ เรื่องการขนของ จากที่จอดรถไปยังจุดที่จะตั้งแคมป์ค่อนข้างจะไกล เรียกว่าเกิน ครึ่งกิโลเมตร ควรจะมีรถเข็นไปด้วยอย่างยิ่ง อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น เหมือนเขาจะทำใหม่ ดูดีมาก ภรรยาผมเห็นแล้วก็เลยเริ่มจะอารมณ์ดีขึ้น หรือว่าได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติก็เลยอารมณ์ดี หลังจากได้ที่เหมาะก็เริ่มกางเต้นท์ และก็ทยอยขนของ โดยเริ่มจากพวกโต๊ะ เก้าอีก เตาแก๊ส เพื่อให้ภรรยาเขาเตรียมอาหารก่อน จากนั้นก็จะเป็นเครื่องนอนต่างๆ และตามด้วยอุปกรณ์ส่องสว่าง 

กว่าจะได้กินข้าวในวันนั้ก็เกือบๆ 1ทุ่ม เป็นหมูกะทะตามแบบภรรยาผม ก็อร่อยดีครับ ประมาณ 2ทุ่มก็ขนหม้อ จาน ขาม กะทะ ไปล้าง จากนั้นก็อายน้ำอาบท่า และกลับมาดื่นเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ทางอุทยานเขาไม่อนุญาติให้นำเข้าไป แต่ๆ มันจำเป็นครับ ไม่ใช่ว่าติดหรืออะไรนะครับ ในส่วนนี้ก็อยากให้ทางอุทยานเข้าใจด้วยนิดหน่อย เพราะสำหรับผมแล้วมันคือยานอนหลับชั้นดีเลยทีเดียว ขอซัก 1-2กระป๋องเพื่อให้หลับง่าย เพราะมันแปลกที่ และมีเสียงลม เสียงสัตว์ต่างๆ ที่ออกหากินตอนกลางคืนด้วย เพื่อการนอนหลับจริงๆ ของร่างกาย 


ประมาณ 4ทุ่ม เจ้าหน้าที่ก็ประกาศให้ดับไฟส่องสว่าง และให้เข้านอนกันได้ ก็พอดีกับเครื่องดื่มหมดพอดี ลำบากมากต้องแอบกิน... จากนั้นก็ไปแปรงฟันก่อนเข้านอน อุณหภูมิก็แค่เย็นๆ ประมาณ 25-26องศา ต้องเปิดหน้าต่างเต้นท์เอาไว้ ไม่อย่างงั้นภายในเต้นท์จะค่อนข้างร้อน  แต่พอตอนเช้าซักตี 4 อุณหภูมิก็เหลือแค่ 22-23องศา ต้องหาผ้ามาห่มกันเลยทีเดียว

สำหรับกิจกรรมในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ก็คือ เดินรอบอ่างเก็บน้ำ ระยะทางก็น่าจะเกือบๆ 1กิโลเมตรได้ และก็ถ่ายรูปวิวตามมุมต่างๆ และก็กลับไปทำอาหารและกาแฟกินกัน ซึ่งก็จะเป็นข้าวจี่กับไข่ดาว และต้มมาม่า ตบท้ายด้วยกาแฟ อีกแก้ว ก่อนที่จะล้างถ้วย ล้างจาน ทยอยเก็บของอื่นๆ เพื่อรอให้เต้นท์แห้ง ก่อจะเก็บเต้นท์ เป็นรายการสุดท้าย และเดินทางกลับ เป็นอีกทริปติดธรรมชาติที่อยากบันทึกเอาไว้ 

By: KCAN