วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2563

พยานรัก ณ กาญจนบุรี

“แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก”


19/12/2020 มาเมืองกาญฯ ครั้งนี้เพื่อเป็นพยานรักให้กับน้องชายคนหนึ่งที่เคยทำงานด้วยกันมากว่า 10ปี เป็นน้องที่มีความสามารถสูงคนหนึ่งเลยทีเดียว ครั้งนี้จะสละโสดแล้ว เลยต้องมาเป็นพยานรักให้กับน้องเขาด้วย เป็นช่วงเวลาที่ดีมากบรรยากาศดี อากาศเย็นๆ ค่อนไปทางหนาวนิดๆ 20องศาเศษๆ สถานที่จัดงานเป็นโรงแรมเล็กๆ ติดแม่น้ำแคว และใกล้กับสะพานรถไฟข่้ามแม่น้ำแควอันโด่งดังของจังหวัด


มากาญจนบุรีทีไร ก็ต้องบอกว่าเป็นจังหวัดที่ใช้ประโยชน์จากสายน้ำได้คุ้มค่าที่สุดจังหวัดหนึ่งในประเทศไทยเลย สามารถหารายได้จากสายน้ำแตวได้ปีละหลายร้อยหลายพันล้านบาท เรียกว่าน่าจะเอาเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นๆ ที่มีแม่น้ำไหลผ่าน ทำเป็นแบบอย่างบ้างน่าจะดี 



บรรยากาศในงานช่วงพิธีรดน้ำสังข์ ระดับรองผู้ว่าราชกาลจังหวัดมาเป็นประธานเลยทีเดียว น้องชายเราก็คงจะไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่เคยบอกกับเราเลยอ่ะ 555 

เมื่อพิธีการช่วงเช้าจบลง ตามปกติก็ต้องไปหาที่เที่ยวกัน แต่ว่าวันนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ก็เลยกล้าๆ กลัวๆ ว่าจะไปเที่ยวไหนต่อดี เลยแค่ออกมาเดินที่สะพานรถไฟสายมรณะเล่น เพื่อฆ่าเวลา ก็ต้องบอกว่ายังสวยเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่าจะพัฒนาไปมากจนไม่น่ากลัวเหมือนสมัยก่อนแล้ว


อนุสรณ์แห่งสงครามโลกครั้งที่สอง ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า โควิดในปัจจุบันนี้เสียอีก (เฉพาะประเทศไทย)

พอมาช่วงเย็น ในงานเลี้ยงบรรยากาศดีมากดื่มด่ำกับบรรยากาศ และอาหารที่เจ้าภาพนำมาจัดเลี้ยง อยู่ดีๆ ก็ต้องตกกะใจกับข่าวแรงงานชาวเมียนม่าที่ตลาดกลางกุ้งติดเชื้อโควิด-19 548คน จากนั่งคุยเรื่องเก่าๆ สมัยทำงานด้วยกันอยู่ ก็เปลี่ยนเรื่องมาเป็นเรื่องโควิดในทันที และก็นั่งมองหน้ากัน กับจานกุ้งผัดเปรียวหวานที่วางอยู่ตรงหน้าด้วย 555 "_ึงว่ากุ้งมาจากมหาชัยหรือเปล่า แล้วกินไปกี่ตัวแล้ว" เรียกว่าเป็นวันที่โลกต้องจำ เอ้ย ประเทศไทยต้องจำไปอีก 1วัน 


ดีที่น้องเราแต่งงานวันนั้น จะได้จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่โคริดระลอก 2 เริ่มระบาดในประเทศไทย และวันนี้ครบ 7วันหลังจากวันแต่งงาน คนติดเชื้อเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ  คร่าดว่าหลังช่วงหลังปีใหม่อาจจะเห็นการติดเชื้อในวงกว้างหรือเปล่า เพราะว่าไม่มีการชัตดาวน์เนื่องจากต้องแลกระหว่างเศรษฐกิจ กับโควิด แต่คิดว่าถ้าหากว่าสถานะการณ์แย่ลงเรื่อยๆ เริ่มมีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ก็ไม่รู้ว่าจะมีการชัตดาวน์อีกหรือไม่...


อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ก็สวมหน้ากากอนามัยกันทุกคนก่อนที่จะออกจากบ้าน ล้างมือบ่อยๆ และเลี่ยงไม่ไปในสถานที่เสี่ยง เพื่อคนไทยทุกๆ คน โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่จะต้องระวังเป็นพิเศษ
ขอให้ทุกๆ อย่างผ่านไปด้วยดี และให้ทุกๆ คนมีความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บตลอดช่วงปีใหม่ และตลอดปี 2564 ที่กำลังจะมาถึงด้วย

สุดท้ายก็ขออวยพรให้น้องเรามีความสุขกับชีวิตหลังแต่งงาน รักกันตราบฟ้าดินสลาย ไร้โควิดในชีวิตรักทั้งสองคนด้วยครับ

By: K.C.A.N




วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ภาษีกู

ช่วงนี้ได้ยิน ได้เห็นคำนี้บ่อยจนทำให้คิดว่า ถ้าหากว่าเราสามารถที่จะเลือกได้ว่าเราอยากให้เงินภาษีของเราไปลงที่กระทรวงไหน ทบวงไหน กรมไหน กองไหน หน่วยงานไหน ได้ด้วยตัวเราเองก็คงจะดี ตัดพ่อค้าคนกลางออกไป นั่นก็คือรัฐบาลที่บริหารเงินภาษีของเรา... จะได้ไม่ต้องเสียค่าบริหารจำนวนมากมายให้เขา และเอาเงินของเราไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ด้วย


ความจริงแล้วด้วยเทคโนโลยี่การเงินแบบปัจจุบัน ผมคิดว่าน่าจะทำได้ไม่ยาก เวลาที่เรายื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก็มีรายการขึ้นมาให้เราเลือกได้เลยว่าเราอยากให้ภาษีของเราไปที่ไหน สามารถเลือกได้แบบไม่จำกัด แล้วก็เอาเงินภาษีของเราไปหารเท่ากับจำนวนหน่วยงานที่เราได้เลือกเอาไว้และก็สั่งจ่ายไปให้ทุกๆ หน่วยงานที่เราเลือกแบบเท่าๆ กัน แค่นี้เราก็สามารถบริหารเงินภาษีที่เราต้องจ่าย ตรงให้กับหน่วยงานที่เราอยากจะให้ อยากจะให้เขาพัฒนา อย่างที่เราต้องการได้ หน่วยงานไหนทำดีกับเรา บริการเราดี เห็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราก็มอบเงินภาษีเราให้กับเขา หน่วยงานไหนบริการไม่ดี ไม่เห็นหัวเรา ไม่มีการพัฒนาใดๆ เราก็ไม่ให้ภาษีของเรากับหน่วยงานนั้น เพียงเท่านี้ รับรองว่าทุกหน่วยงานจะมีการพัฒนาและปรับตัวอย่างแน่นอน เพื่อหวังว่าเขาจะได้รับเงินภาษีจากเราในปีถัดไป ซึ่งภาษีของเราต้องจ่ายทุกปี ปีนี้เขาบริการเราดี เราก็ให้ภาษีเรากับเขา ปีหน้าบริการเราไม่ดี เราก็ไม่ให้ภาษีเรากับเขา เรียกว่าตัดสินกันปีต่อปีเลย ดีกว่าจ้างคนเข้ามาบริหารทีละ 4-5ปี เปลี่ยนก็ไม่ได้ ไม่ถูกใจก็ต้องทนรอ4-5ปี บางครั้งก็ออกกฎหมายมาให้ตัวเองอยู่ยาวๆ อีกต่างหาก...

แต่ก็ไม่ต้องห่วง เพราะคนที่เราจ้างเขาเข้ามาบริหารนั้นก็ยังคงต้องจ้างต่อไป แต่ว่าลดจำนวนลง เพราะมีภาษีแบบอื่นๆ ที่ยังต้องให้เขาเข้ามาบริหารอยู่ เช่นภาษี VAT. และภาษีอื่นๆ เพื่อเอาไว้จ่ายให้กับหน่วยงานที่ไม่มีคนบริจาคภาษีให้ หรือบริจาคให้น้อย ไม่เพียงพอต่อการจ่ายเงินเดือนพนักงานในหน่วยงานนั้น ซึ่งหน่วยงานนั้นก็คงจะต้องพิจารณาตัวเอง และปรับปรุงพัฒนาเพื่อให้ประชาชนจ่ายเงินภาษีให้เขามากขึ้นในปีต่อๆ ไป


เพียงเท่านี้เราก็จะบริหารเงินภาษีของเราได้ด้วยตัวเราเอง ไม่ต้องให้ใครมาบริหาร ไม่ต้องมาขัดแย้งกันเพราะเงินภาษีของเรา...

ขอฝากกรมสรรพากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับเอาไว้พิจารณาและพัฒนาระบบภาษีแบบจ่ายตรง เพื่อให้ประเทศพัฒนาไปในทิศทางที่ประชาชนอยากเห็นได้ดีกว่าทุกวันนี้...


By: K.C.A.N

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Patttaya 2020 with Family

แล้วเราก็ขอให้แม่เราออกจากบ้านไปเที่ยวจนได้ วันหยุดทั้งทีจะให้นั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้านอย่างเดียวคงจะดูน่าเบื่อเกินไป เพราะว่าแกก็อยู่บ้านสัปดาห์ละ 7วันแล้ว นานๆ ทีจะได้ไปนอนค้างคืนที่อื่นบ้าง

ผมเองก็เข้าใจแม่ผมนะครับ เพราะว่าแกเดินเหินลำบาก เลยไม่อยากจะเป็นภาระให้ลูกหลาน แต่ว่าเราก็อยากจะให้แกออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง เมื่อความคิดไม่ตรงกันก็ต้องมีการหลอกกันบ้าง 555

เมื่อวันที่ 23/10 เราก็วางแผนกันเอาไว้แล้วว่าจะไปนอนที่อื่นพอดีภรรยาผมเขาได้ที่พักราคาถูกมาพอดี เป็นโรงแรมที่สร้างเสร็จแล้วประมาณ 90% และกำลังอยู่ในช่วงโปรโมทอยากให้คนเขารู้จักอยู่ อยู่ที่หาดจอมเทียน ซอยจอมเทียน 14/1 ชื่อว่าโรงแรม HOITAK ซึ่งราคาห้องพัก ลดกว่า 60% จากห้องชุดราคา 2,200บาท เหลือ 800บาท และห้องธรรมดาราคา 1,500บาท เหลือ 500บาท คุณภรรยาก็เลยจัดมา 2ห้องรวมแล้ว 1,300บาท เรื่องหาของถูกไว้ใจภรรยาผมได้ครับ 555


เราเดินทางไปถึงที่พักก็บ่ายแก่ๆ ของวันศุกร์ น่าจะบ่าย 2-3โมง จากนั้นพักผ่อนกันเล็กๆ น้อยๆ ถ่ายรูปเล่นในที่พักแล้ว ก็ได้เวลาลงมาซื้ออาหารเย็นกันครับ ก็ต้องเป็นอาหารทะเล ทั้งปลาหมึกย่าง หอยแครงเผา ปูนึ่ง และต้มยำทะเล โดยมีภรรยา และลูกสาวคนโต เป็นคนจัดการเรื่องอาหาร ส่วนผมก็มีหน้าที่ถือของ ส่วนลูกสาวคนเล็กก็เฝ้าอาม่า กับอาโกวอยู่ที่ห้อง

ในระหว่างรอของมาถือ ก็หามุมถ่ายรูปสวยๆ เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกซักหน่อย ไม่ได้มาพัทยานาน หลายๆ อย่างก็เปลี่ยนไป ที่วันที่ไปคนก็เยอะอยู่นะครับ รถจอดเติมชายหาด รวมถึงคนต่างชาติเองก็มีไม่น้อย ไม่รู้ว่าเขามาประกอบกิจการในเมืองไทย แล้วติดสถานะการณ์โควิดเลยกลับไม่ได้หรือว่าอะไร

แล้วก็ได้เวลาอาหารเย็นที่ได้อยู่กันพร้อมหน้า พร้อมตา จากนั้นก็เดินเทียวชายหาดยามเย็นและก็หาเครื่องดื่มมาดื่มกันบนดาดฟ้าของโรงแรม ที่เป็นทั้งสระว่ายน้ำ และที่นั่งดื่มกิน โดยได้วางแผนว่าจะพาอาม่ากับอาโกวลี่ขึ้นมาข้างบนนี้ตอนเช้า

แต่จะพาขึ้นมายังไงเพราะว่าลิฟท์ขึ้นมาได้สูงสุดแค่ชั้น 8 และจะต้องเดินขึ้นมาอีก 1ชั้น ไม่รู้ว่าอาม่าจะไหวหรือเปล่า แต่ผมก็ยังคิดว่าแกยังน่าจะเดินขึ้นมาได้อยู่อาจจะต้องช่วยกันประคองบ้างนิดหน่อย จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้านอน

24/10 เช้า ก็ต้องทำตามแผนที่วางเอาไว้ แต่ว่าเจ้าลูกสาวทั้งสองคน ไม่ยอมตื่นอ่ะซิ ไม่รู้จะทำยังไงเลย ภรรยาผมก็บอกว่าให้ผมพาแม่ขึ้นไปเดินเล่นข้างบน แล้วแกจะออกไปหาอาหารเช้ามาให้ เลยต้องให้เจ้าน้องสาวผมช่วยกันพาขึ้นไปบนดาดฟ้า


และในที่สุดก็ทำสำเร็จสามารถพาแม่และน้องสาวขึ้นมาบนดาดฟ้าจนได้ เห็นแกมีความสุขเราก็หายเหนื่อย น้องสาวผมพอเห็นสระว่ายน้ำเท่านั้น ก็อดไม่ได้ที่จะลงไปเล่นน้ำ เพราะว่าแกชอบมาก ที่จะเป็นปัญหาก็คือ เล่นแล้วไม่ยอมที่จะขึ้นจากน้ำ 



กว่าจะยอมขึ้นจากน้ำต้องหลอกว่าไปกินข้าวเช้ากัน เล่นตั้งแต่ 7โมง จนเกือบจะ 9โมง แดดก็เริ่มจะร้อนแม่ผมต้องนั่งตากแดด เลยต้องเอาของกินมาล่อเพื่อให้ขึ้นจากน้ำ ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน ก็ต้องแวะไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่คู่เมืองพัทยากันสักหน่อย แม้ว่าแม่ผมจะเดินขึ้นไปข้างบนไม่ได้แต่แกก็ยังอยากจะเดินไปไหว้อยู่ เลยให้แกไหว้อยู่ข้างล่าง


งานนี้ต้องขอบใจคุณภรรยาที่ทำให้ทุกคนในบ้านหลังนี้มีความสุข แม้จะแค่ 2วันกับ 1คืน ก็เพียงพอ ไม่ต้องร่ำรวยเงินทองมากมายก็เที่ยวได้ งานนี้หมดไป 4,500บาท ค่าที่พัก 1,300 ค่าน้ำมันรถ 500 และค่ากิน 3มื้อ 2,700บาท สำหรับคน 6คน ก็ไม่ถือว่าแพงมาก หารแล้วตกคนละ 750บาทเท่านั้น แต่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ทุกๆ คนได้เยอะเลย


 จากนี้ต้องเก็บเงินอีก 3เดือน เพื่อไปเที่ยวปีใหม่ งบ 8,000-10,000บาท จะเก็บทันหรือเปล่า? ตกเดือนละ 1,667บาท ต่อเดือน ต่อคน สู้ๆ ให้เหมือนเสียงคลื่นในทะเล



By: K.C.A.N

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563

สุดแผ่นดินตะวันออก @ตราด


ป้ายสุดแผ่นดินภาคตะวันออก อีกหนึ่งป้ายเขตแดนที่ได้มาถึง ป้ายแห่งนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอแหลมงอบจังหวัดตราด จุดแวะถ่ายภาพและเป็นท่าเรื่อที่จะข้ามไปที่แกะช้าง

พอดีได้รับมอบหมายให้มาปฎิบัติภาระกิจที่โรงพยาบาลแหลมงอบ แต่ว่ามาเช้าเกินไปหน่อย เจ้าหน้าที่เขายังมาไม่ถึงกัน เลยได้แวะออกมาหาข้าวกิน และเลยแวะสูดอากาศริมทะเลยามเช้าซักหน่อย 


โชคดีที่ฝนไม่ตก แต่ว่ามองไปทางเกาะช้างเห็นเมฆลอยต่ำมากเรียกว่าคลุมเกาะช้างเอาไว้เลยครับ คาดว่าฝนน่าจะตกแน่ๆ บนเกาะช้าง ทำให้ลมพัดอย่างเย็นสบายโดยลมค่อนข้างแรง คาดว่าเมฆฝนคงจะลอยข้ามทะเลมาในไม่ช้าอย่างแน่นอน 


แปดโมงตรึ่งแล้วครับ จะต้องกลับเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงพยาบาลแล้ว เอาไว้จะพาครอบครัวมาเที่ยวใหม่


By: K.C.A.N

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2563

พาหลานตะลุยนครนายก

เมื่อน้องชายพาลูกสาวมาสวัสดีปีใหม่อาม่าถึงบ้าน หลังจากที่นั่งกินอะไรกันเสร็จแล้ว คืนนั้นน้องชายก็นอนค้างที่บ้าน ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นก็สอบถามหลานว่าอยากจะไปเที่ยวไหน เดี๋ยวจะพาไป เพราะเห็นหลานนั่งเล่นแต่โทรศัพท์แทบทั้งวัน หลานก็คิดอยู่แป๊บนึง ก็บอกว่าอยากไปเที่ยวน้ำตก น้องชายก็บอกว่าแถวนี้มีน้ำตกที่ไหน

ละ ไปเที่ยวห้างยังจะดีกว่า ก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรถ้าอยากไปก็ได้ นครนายกก็มีแล้วน้ำตก ไม่ไกลมากเลยบอกว่าให้อาบน้ำเตรียมตัวไปเที่ยวน้ำตกกัน จากนั้นก็ออกเดินทางจากบ้านมายังจังหวัดนครนายก โดยจุดหมายปลายทางคือ น้ำตกนางรอง เพราะกลัวว่าเข้าไปที่น้ำตกสาริกาแล้วจะไม่มีน้ำ แต่ว่าน้ำตกนางรองมีน้ำแน่นอนแค่จะมากหรือจะน้อยเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ผิดหวังที่เลือกที่จะมาที่น้ำตกนางรอง


ดูเจ้าหลานสาวก็มีความสุขดีดีกว่านั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บ้านเฉยๆ อย่างน้อยก็ได้มาเห็น มาสัมผัสกันน้ำตกของจริงๆ โดยเข้าหลานสาวก็เดินเที่ยวใหญ่เลย สอบถามว่าจะเล่นน้ำหรือเปล่า เดี๋ยวไปซื้อชุดใหม่ เอาไว้เล่นน้ำ ก็บอกว่าไม่อยากเล่น แค่เดินเดินก็พอแล้ว ก็บอกว่าไม่ต้องเกรงใจนะ ถ้าอยากเล่นบอกได้เลย


สอแบถามว่าเคยมาเที่ยวน้ำตกหรือยัง หลานก็บอกว่าจำไม่ได้ คุ้นๆ เหมือนตอนเด็กป๊าเคยพาไปอยู่แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่สองหรือเปล่า...ต้องลองไปถามอาป๊าดูอีกครั้ง แต่ก็ดูเหมือนจะตื่นเต้นดี หลังจากที่เดินเล่น ถ่ายรูปกันแล้วก็ต้องนั่งหาของกิน และนั้งเอาขาจุ่มน้ำเย็นๆ กัน

ส่วนผู้ใหญ่ก็เดินกันไม่ค่อยจะไหว ก็นั่งรอให้เด็กๆ เดินเล่นกัน ก็บอกให้ช่วยกันระวัง เรื่องตกน้ำ ตกท่า สอบถามเจ้าหลานสาวว่าไหว้น้ำเป็นหรือเปล่า ก็บอกว่าไหว้ไม่เป็นเลยต้องฝากลูกสาวให้ดูแลน้องด้วย


จากนั้นพอออกจากน้ำตกนางรองแล้ว ก็แวะพาไปดูเขื่อนขุนด่านปราการชลซักหน่อย ไหนๆ ก็มาถึงนครนายกแล้วคงจะพลาดเขื่อนแห่งนี้ไม่ได้ ที่สำคัญคือต้องนั่งรถก๊อฟข้ามเขี่อนด้วย ถึงจะเรียกว่ามาถึงจริง เขื่อนแห่งนี้เป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานให้กับประเทศนี้ เป็นเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กที่เรียกว่ายาวที่สุดในประเทศไทย


หลังจากลงจากเขื่อนก็ต้องหาอะไรกินกัน ซึ่งที่นครนายกก็มีร้านให้เลือกกินเยอะมาก ซึ่งร้านที่ไปก็จะมีทั้งอาหารและกาแฟให้กินดื่มกัน พักผ่อนในบรรยากาศทุ่งนา มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ ซึ่งเจ้าหลานสาวก็จูงมือคุณพ่อไปถ่ายรูปกันใหญ่



ในระหว่างรออาหารก็ต้องถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำกันหน่อย เป็นกิจกรรมวันหยุดที่ลุงคนหนึ่งจะมอบให้กับหลานสาวเก็บเอาไว้ในความทรงจำ ดีกว่านั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บ้าน หวังว่าจะสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้กับหลานสาวได้


By: K.C.A.N

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2563

น้ำตกมวกเหล็ก น้ำตกใกล้กรุงเทพฯ

 

น้ำตกมวกเหล็ก หรือน้ำตกหมวกเหล็ก เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มาก และอยู่ห่างจากถนนมิตรภาพ เพียงไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น โดยตั้งอยู่ในสวนรุกขชาติมวกเหล็ก ซึ่งสวนรุกชาติมวกเหล็กแห่งนี้กินพื้นที่กว่า 300ไร่ กินพื้นที่ 2อำเภอ คืออำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

พิกัด GPS ของสวนรุกขชาติมวกเหล็ก @14.6434741,101.2020718 ซึ่งภายในสวนรุกขชาติจะเงียบสงบ และร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานาพันธุ์ ซึ่งที่สวนรุกขชาติแห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้ยืนต้นที่สำคัญๆ ของประเทศไทย ทั้งพรรณไม้ที่มีความสำตัญทางเศรษฐกิจ และความสำคัญในด้านต่างๆ ให้ได้ศึกษาหาความรู้กัน

ช่วงเดือนกันยายน และตุลาคม จะเป็นช่วงที่มีน้ำเยอะ น้ำตกจะสวนเหมือนอย่างในรูป เสียงน้ำดังมาก ภายในสวนรุกขชาติ มีสะพานแขวนอยู่ 2แห่ง ซึ่งมีถนนสามารถเดินออกกำลังกายหรือปั่นจักรยานวนได้ทั้ง 2สะพาน โดยคลองที่มีน้ำตกมวกเหล็กนี้เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่าง 2จังหวัดด้วย 


โดยเราสามารถที่จะเดินข้ามจังหวัดกันได้ง่ายๆ ระหว่างสระบุรี และนครราชสีมา แค่ข้ามสะพาน ภายในสวนรุกขชาติมวกเหล็กแห่งนี้ ยังมีต้นไม้ของพ่อด้วย โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงเสร็จมาปลูกต้นประดู่ ที่สวนแห่งนี้เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2501 หรือเมื่อ 60กว่าปีที่แล้ว...


ซึ่งภายในสวนรุกขชาติมวกเหล็ก ก็มีบ้านพักให้สามารถเช่าเพื่อนอนค้างคืนภายในสวนรุกขชาติได้ด้วย เฝื่อว่าท่านใดอยากจะพักผ่อนแบบไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ไม่ต้องขับรถไกลๆ ได้บรรยากาศที่ร่มรื่น นอนฟังเสียงน้ำตกช่วง เสาร์-อาทิตย์ ก็สามารถติดต่อสอบถามกันได้


แต่ว่าบ้านพักมีเพียง 1-2หลังเท่านั้น ก็ต้องต่อคิวกันนิดนึง เพราะว่าคิวค่อนข้างยาว โดยสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 036 344-100



By: K.C.A.N






วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2563

ที่นี่ประเทศไทย #วัดโฝวกวงซัน


เมื่อ 2อาทิตย์ที่แล้วมีเพื่อนในไลน์ ส่งรูปมาให้ดูตอนแรกคิดว่าไปเที่ยวประเทศจีนมาซะอีกเลยไลน์ไปถามว่าเขาให้เข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวแล้วรึ? เพื่อนก็ส่งสติ๊กเกอร์เป็นรูปหัวเราะมา แล้วก็บอกว่าไม่ได้ไป

ต่างประเทศ รูปที่ส่งไปให้ดูอยู่ที่ประเทศไทยเรานี่แหละ ก็เลยสอบถามว่าอยู่แถวไหน ชื่อว่าอะไร เพื่อนก็บอกว่าอยู่แถวถนนคู้บอน กรุงเทพฯ นี่เอง ชื่อ #วัดโฝวกวงซัน น่าจะเป็นวัดสไตล์จีนไต้หวัน สวยมากพาแม่


ไปเที่ยวซิแนะนำ เพื่อนบอกว่าขนาดนี้ ก็เลยลองหาข้อมูลใน Google maps ปรากฏว่าอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไหร่ ประมาณ40-45นาที ความจริงก็วิ่งผ่านแทบทุกวัน ใกล้ๆ กับมอเตอร์เวย์ สาย 9 เวลาวิ่งผ่านจะ


เห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมอยู่ เคยคิดว่าจะพาแม่มาเที่ยวอยู่ แต่ไม่รู้จักว่าสถานที่ชื่ออะไร และจะมายังไงด้วย รู้แต่ว่าต้องวิ่งเส้นคู่ขนาดของมอเตอร์เวย์ แต่อยู่ๆ ก็รู้จักเพื่อน แน่นอนว่าต้องไม่รอช้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วช่วงสายๆ หน่อย เพราะตอนเช้าฝนตก พอฝนหยุดตกก็เลยชวนแม่ผมกับลูกสาวมาเที่นว แต่ว่าลูกสาวบอกว่าจะ


สอบแล้วจะอ่านหนังสือ ขอผ่าน พอดีแฟนบอกว่าจะไปด้วย เพราะขอติดรถออกมาซ่อมแว่น จากนั้นก็ออกเดินทางกัน 3คน โดยมีแม่ผมและภรรยา ไปถึงที่วัดประมาณเที่ยงๆ พอดี ด้วยความที่แม่ผมไม่สะดวกที่จะเดินต้องใช้รถเข็น ตอนแรกก็คิดว่าคงจะเที่ยวไม่ได้ เพราะจะต้องมีขึ้นๆ ลงๆ บันได แต่บอกได้เลยครับว่า


ที่วัดนี้มีทางลาดทุกที่ครับ ผู้สูงอายุที่นั่งรถเข็นสามารถที่จะเข้าไปไหว้พระในวิหารได้เลย เรียกว่าออกแบบตามหลักอารยะสถาปัตย์จริงๆ สวยงามทั้งองค์เจ้าแม่กวนอิม เจดีย์ โดยเฉพาะภายในวิหาร มีโรงเจให้ได้รับประทานอาหารด้วย แล้วแต่จะบริจาค แต่จะเป็นอาหารเจทั้งหมดนะครับไม่มีเนื้อสัตว์ แต่อยากบอกว่ารสชาติดีมากครับ


วันนั้นเป็นวันที่ดีครับ ครึ้มฟ้า ครึ้มฝน แต่ว่าฝนไม่ตก แดดก็ไม่มี อากาศเย็นสบายเหมาะกับการเที่ยวมาก ยังคิดในใจอยู่ว่ามาไหว้เจ้าแม่กวนอิมแล้วรู้สึกเย็นสบายเลย 


แม่ผมก็บอกว่าวัดสวยมาก เอาไว้ต้องชวนหลานๆ มาเที่ยวอีก ซึ่งก็ขอแบ่งปันต่อ เหมือนอย่างที่เพื่อนแบ่งปันมาครับ พิกัด GPSของวัด @13.8563267,100.6772584 ออกไปเที่ยว ออกไปไหว้พระ ออกไปหาของกินนอกบ้าน โดยเฉพาะร้านค้าริมทาง เพื่อให้เงินมันหมุนไปครับ กระตุ้นเศษรฐกิจ

อย่าเข้าแต่ 7-11 เพราะจะทำให้เงินหมุนได้น้อยรอบกว่าแม่ค้าริมทางมาก

By: K.C.A.N