วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ปลุกวิญญาณความเป็นช่างในตัวคุณ

หยุดอยู่บ้านไม่รู้จะทำอะไร พอดีไปพบกับแผงวงจรที่เคยซื้อมาเมื่อปีที่แล้ว เป็นแผงวงจรที่ใช้ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านโทรศัพท์มือถือโดยใช้ระบบ Bluetooth ในการสั่งงาน ซึ่งสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กๆ ที่ใช้กระแสไฟไม่เกิน 10A ได้ (ดูจากอัตราทนกระแสของหน้าสัมผัสรีเลย์) หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่เกิน 2000วัตต์  (10A x 220V) แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ควรจะเกิน 1000W เพื่อความปลอดภัย (Safety Spec.) 

ไหนๆ ก็ว่างอยู่ ก็เลยหยิบออกมาทำเป็นโปรเจค ปลั๊กพ่วง ควบคุมด้วยโทรศัพท์มือถือเลยดีกว่า โดยตอนแรกก็ต้องทดลองแผ่นวงจรก่อนว่ายังสามารถทำงานได้อยู่หรือเปล่า โดยต่อไฟ 5V เข้าไป และลองสั่งปิด สั่งเปิด รีเลย์ดู ซึ่งก็สามารถสั่งให้รีเลย์ทำงานได้ จึงได้เริ่มสั่งกล่องสั่งปลั๊ก สั่งสายไฟมา 

หลังจากที่ได้ของครบ ก็เริ่มลงมือทำกันเลย โดยได้เริ่มจากกล่องก่อน ได้เจาะช่องสีเหลี่ยม เพื่อให้ปลั๊กตัวเมียสามารถโผล่ออกมาได้ เจาะรูสำหรับสายไฟออก เจาะรูยึดแผงวงจร เจาะรูยึดปลั๊กตัวเมีย เมื่อเจาะครบแล้วก็เริ่มทำขั้นตอนต่อไป โดยเริ่มจากยึดปลั๊กตัวเมียให้อยู่กับที่บนฝากล่องที่เจาะเอาไว้ 

เดินสายไฟ ระหว่างรีเลย์ ที่อยู่บนแผงวงจรเข้ากับปลั๊กตัวเมีย จากนั้นก็ยึดแผงวงจรให้อยู่กับที่ ตามรูที่เจาะเอาไว้  

จากนั้นก็ติดแหล่งจ่ายไฟตรง 5V เพื่อเลี้ยงแผงวงจร ในที่นี้ผมก็ใช้หม้อแปลงชาร์จมือถืออันเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้วมาทำหน้าที่ ซึ่งมันก็ทำหน้าที่ได้ดีที่เดียว

และขั้นตอนสุดท้ายก็คือต่อสายไฟ 220V เข้ากับระบบ ซี่งในขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้ความรู้เฉพาะด้านนิดหน่อย เพราะว่ามันอันตรายเพราะถ้าต่อผิดไฟอาจช๊อตได้ และก็เป็นไฟที่มีระดับแรงดันค่อนข้างสูงด้วย อาจได้รับอันตรายได้ พอดีว่าผมเรียนมาทางด้านนี้โดยเฉพาะ แต่เป็นหลักสูตรเมื่อ 30ปีที่แล้ว ยังไม่มี Wifi, Bluetooth ใดๆ แต่ก็พอมีพื้นฐานด้านไฟฟ้าอยู่บ้างครับ

หลังจากประกอบทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ถึงตอนทดสอบใช้งานกัน แล้ว โดยใช้พัดลมในการทดสอบ ซึ่งก็ทำงานได้ดีทีเดียว 

ปัญหาที่พบ ณ ตอนนี้คือเรื่องโปรแกรม APK ที่แถมมาให้กับแผ่นวงจรไม่สามารถที่จะใช้กับ Android รุ่นใหม่ๆ ได้ น่าจะใช้ได้กับ Android รุ่น 6,7,8 เพราะลองเอาไปลงที่มือถือลูกสาวเป็น Android รุ่น 10แล้วใช้งานไม่ได้ แต่สำหรับมือถือของผมสามารถใช้งานได้เพราะเป็นรุ่นเก่า อันนี้คงต้องศึกษาเรื่องการเขียนซอฟแวร์เพิ่มเติม ซึ่งก็คงจะยากเหมือนกัน

ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ภรรยาคอมเม้นท์มาก็คือเรื่องความปลอดภัย อยากให้มีสวิทช์ ปิด/เปิด และควรติดตั้งฟิวส์ด้วย และอีกเรื่องคือเมื่อเวลาไฟดับ และไฟเลี้ยงแผ่นวงจรดับ จะต้องมาเข้ารหัสใหม่ทุกครั้งด้วย จึงไม่ค่อยสะดวก... ซึ่งจะต้องเก็บเอาไว้พัฒนาต่อ เรื่องสวิทช์ ปิด/เปิด และฟิวส์ ก็ไม่น่าจะยากอะไร แต่เรื่องเวลาไฟดับต้องมาเข้ารหัสเพื่อต่อ Bluetooth ใหม่ อันนี้น่าจะลำบาก เพราะยิ่งถ้าติดสวิทช์ ปิด/เปิด ด้วยแล้ว ทุกครั้งที่ปิด นั่นคือควรจะตัดไฟเลี้ยงแผ่นวงจรด้วยเช่นกัน 

https://youtu.be/M-ydAAA-U0I

ส่วนลูกสาวบอกว่า ควรจะมีไฟแสดงสถานะด้วย ไม่อย่างงั้นก็ไม่รู้ว่าปลั๊กอันไหน เปิด หรือ ปิด อยู่อีก... ร่วมด้วยช่วยกันพัฒนา แต่ไม่สงสารคุณพ่อที่เป็นคนทำเลยอ่ะ ยิ่งใส่โน่นใส่นี่เข้าไปต้นทุนก็ยิ่งสูง แล้วจะขายได้รึ 555 เอาเป็นว่าจะค่อยๆ พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ แล้วจะมาอัปเดทให้ฟังเป็นระยะแล้วกัน

ช่วงเวลาโควิดที่ต้องอยู่กับบ้าน ก็หาอะไรทำไปเรื่อยๆ เพิ่มพูนความรู้ความสามารถกันครับ อย่าอยู่เฉยๆ เพราะเวลาเป็นสิ่งมีค่า แม้จะไม่มีรายได้ แต่ก็หาอะไรที่เก็บจากของเก่าๆ มาทำใหม่ก็ได้ ก็ขอให้ทุกๆ คนปลอดภัยการโควิด-19 กับทั่วๆ หน้าครับ

By: KCAN


วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

วังมัจฉาวัดพระนอน สุพรรณบุรี

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณวังมัจฉา วัดพระนอน สุพรรณบุรี ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ที่สวยๆ และสงบมากๆ สำหรับรับประทานอาหารกลางวันในวันนั้น...


เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปปฏิบัติภารกิจที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช สุพรรณบุรี โดยได้นัดหมายเอาไว้บ่ายโมงครึ่ง แต่ว่าด้วยการคาดการณ์ที่ผิดพลาด เพราะการจราจลไม่ติดขัดเลย ทำให้ไปถึงที่สุพรรณบุรีตั้งแต่ 11:30 ก็เลยไม่รู้ว่าจะไปไหนดี เพราะว่าเป็นช่วงโควิดระบาดด้วย อีกอย่างคือเราเป็น


คนนอกพื้นที่ และสุพรรณบุรีก็ประกาศว่าต้องมีการกักตัวด้วย ตอนแรกก็แวะตามปั๊มน้ำมันเพื่อฆ่าเวลา แต่ว่าก็ลองหาสถานที่ที่น่าจะเที่ยวได้ดีกว่าปั๊มน้ำมัน ได้ลองหาวัดสวยๆ ก็จะมีวัดป่าเลไลยก์ และก็มีวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ก็เลยเห็นว่าน่าสนใจดี จึงได้ลองขับรถไปดู พอไปถึงก็รู้สึกว่าใกล้แหล่งชุมชนเกิน ดูแล้วไม่


เหมาะที่จะนั่งเงียบๆ อีก 1ชั่วโมงกว่าๆ เดี๋ยวชาวบ้านสงสัยว่าเป็นใครแล้วมาทำอะไร จึงได้จอดรถและหาซื้อข้าวกล่องกับร้านค้า กาแฟร้อน และน้ำในร้านสะดวกซื้อ จากนั้นก็กลับเข้ามาในรถเพื่อหาสถานที่ที่คิดว่าจะเงียบๆ กว่านี้ เพราะว่าถนนเส้นนี้จะวิ่งเลียบริมแม่น้ำไป พอดีเห็นว่ามีวังมัจฉาอยู่ ห่างไปอีกไม่ไกลอยู่ติดแม่น้ำด้วย 

จึงได้ขับต่อไปอีก 4กิโลเมตรกว่าๆ แผนที่ก็บอกให้เลี้ยวเข้าไปเป็นวัดพระนอน ตอนแรกที่เลี้ยวเข้าไปก็ตกใจมากเพราะว่าเงียบเกิน ไม่มีคนเลย แต่ก็สะดุดตากับโบสถ์หลังน้อยๆ ที่ตั้งอยู่ที่ด้านหน้า เลยได้แวะลงไปถ่ายรูป จากนั้นก็ได้ขับต่อเข้าไปจนถึงริมแม่น้ำท่าจีน บอกได้เลยว่าเป็นสถานที่ที่กำลังหาอยู่เลย เงียบไม่มีคน และบรรยากาศดี ไม่มีแดด ด้วยเพราะครึมฟ้า ครึมฝน ที่สำคัญคือมีชิงช้าให้นั่งกินข้าวกลางวันอยู่ริมแม่น้ำ


ด้วย เรียกว่าสมประสงต์ ตามที่อยากได้เลย จึงได้นำอาหารกลางวัน กาแฟ และน้ำออกมาจากรถ มุ่งไปที่ชิงช้า และจัดการกับอาหารกลางวันที่เตรียมเอาไว้ แต่ก็บอกตรงๆ ว่าไม่กล้าที่จะเดินเพ่นพ่าน ก็จะนั่งๆ เดินๆ อยู่แถวๆ นั้น เพราะกลัวว่าพระท่านจะกลัวเรา เพราะมาจากต่างพื้นที่ ในใจตั้งใจจะเข้าไปกราบพระใน


วิหารอยู่ แต่คิดอีกทีอย่าดีกว่า อยู่แต่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกๆ ดีกว่า พระ เณร ก็ไม่ต้องกังวลกับเราด้วย ตัวผมเองมั่นใจว่าตัวเองไม่ติดโควิดแน่นอน แต่คนอื่นๆ เขาจะเชื่อเราหรือเปล่า โดยเฉพาะช่วงเวลาแบบนี้ด้วย ไม่มีใครไว้ใจใครแน่นอน จึงได้แค่รูปที่อยู่ภายนอนวัดมาให้ดู 


เป็นเวลากินข้าวกลางวันที่สงบ สบายใจอีกมื้อ กินข้าวไปดูแม่น้ำ ดูวัด ดูเมรุ แล้วก็ให้รู้ถึงสัจธรรมแห่งชีวิตดีครับ และเวลาแห่งความสุขก็มักจะผ่านไปเร็วเสมอ แป๊บเดียว ก็ใกล้จะถึงเวลาที่นัดหมายแล้ว ต้องพาชีวิต ออกไปสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง ชาร์จพลังแล้วก็พร้อมออกไปสู้ต่อ เอาไว้ โควิดหายยามใดจะขอกลับมากราบพระในวิหารนะครับ แล้วพบกับบล๊อกถัดไปครับ

พิกัด GPS วังมัจฉาวัดพระนอน จังหวัดสุพรรณบุรี : @14.50669,100.118241

By: KCAN.

วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

พระหมอหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีโอกาสไปทำงานที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยามา จำได้ว่าพี่ข้างบ้านเคยบอกว่าอยากมาที่อำเภอเสนา เพราะอยากแวะขอพรจากหลวงพ่อปาน เพื่อให้หลวงพ่อช่วยคุ้มครองเรื่องโรคระบาด โควิด-19


เพราะท่านว่าหลวงพ่อปานมีชื่อเสียงในเรื่องการรักษาผู้ป่วยให้หายจากโรคต่างๆ ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ จนชาวบ้านเรียกว่า "พระหมอหลวงพ่อปาน"

สมัยก่อนมีโรคห่าเกิดระบาดขึ้น แทบทุกตำบลในระแวกนั้นเป็นโรคห่ากันหมด เว้นแต่ตำบลบางนมโค เพราะว่าหลวงพ่อปานท่านช่วยรักษาและป้องกันให้กับชาวบ้านจนมีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยนัน


ไหนๆ ก็มาถึงอำเภอเสนาแล้ว ในช่วงเวลาเที่ยงมีเวลา จึงได้เดินทางแวะมาขอพรหลวงพ่อปานเพื่อให้หลวงพ่อช่วยปัดเป่า คุ้มครองและป้องกัน ในเรื่องโรคระบาดโควิด-19 ให้ทุกๆ คนปลอดภัย ให้พบยาดีๆ ที่ช่วยยุติโรคระบาดนี้ได้ โดยได้เข้าไปกราบพระประธานในโบสถ์ก่อน แลัวก็แวะไหว้สถูปเจดีย์หลวงพ่อปาน และไหว้รูปเหมือนหลวงพ่อปานที่ศาลาด้านหน้า จากนั้นก็ทานข้าวกลางวัน ก่อนที่กลับไปทำงานต่อในช่วงบ่าย

สาธุ สาธุ สาธุ ขอหลวงพ่อปานช่วยปัดเป่าให้ทุกๆ คนในครอบครัวปลอดภัยจากโรคระบาดทั้งปวงด้วยเถิด

พิกัดวัดบางนมโค @14.3230065,100.4246267

By : KCAN.