วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2563

วัดถ้ำกลองเพล หนองบัวลำภู



ครั้งแรกในชีวิตเหมือนกันที่ได้มาจังหวัดนี้ เมื่อปลายปีที่แล้ว จำไม่ผิดน่าจะเป็นช่วงเดือนธันวาคมกลางๆ เดือน โดยไปงานของบริษัทฯ ที่จังหวัดอุดรธานี และช่วงเสาร์ อาทิตย์เลยแวะไปที่จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นจังหวัดใหม่ 1 ใน 3 ของประเทศไทย ซึ่งแยกมาจากจังหวัดอุดรธานี



ก็ไม่เคยมาและไม่เคยคิดเลยว่าจากอุดรธานีขับรถมาหนองบัวลำภู จะต้องมีการขับข้ามภูเขาด้วย อยากบอกว่าถนนสวยเหมือนขับอยู่แถวๆ ภาคเหนือเลย ถนนก็ดี ขนาด 3ช่องจราจลเลย ขับง่าย และที่สำคัญคือพอลงจากเขาปุ๊บ ก็ถึงตัวเมืองปั๊บ มีเทือกเขาทอดตัวยาวๆ อยู่ทางซ้ายมือ ตลอดแนว ได้สอบถามกับคนแถวนั้นว่าชื่อเขาอะไร ก็ได้รับคำตอบว่า ภูพานน้อย ความรู้สึกจากวิวที่ได้เห็น เหมือนดูในหนังฝรั่งเลย บรรยายไม่ถูก แต่สวยดีครับ บวกกับอากาศเย็นๆ 10องศาต้นๆ บอกได้เลยว่าฟินสุดๆ อาหารเช้าเป็นไข่กะทะแบบหนองบัวลำภู

บนภูเขามีเจดีย์เห็นอยู่ไกลๆ แต่ว่า ไม่ได้ขึ้นไปเที่ยว เพราะว่างานยังไม่เสร็จ พอเสร็จธุระแล้ว ก็ได้ค้างคืนที่แถวๆ แยกที่ลงจากภูเขา และได้สอบถามชาวบ้านแถวนั้นหลายคนว่า มีที่เที่ยวที่ไหนแนะนำบ้าง ซึ่งก็บอกว่า เจดีย์บนยอดเขาภูพานน้อย และวัดถ้ำกลองเพล แต่เจดีย์ คงไม่ได้ขึ้นไป เพราะว่าเห็นถนนทางขึ้นแล้วรู้สึกว่าชันอยู่ เลยสอบถามว่าวัดถ้ำกลองเพลมีอะไร แล้วทำไมถึงควรจะไป ซึ่งจากคำตอบที่ได้ ทำให้ผมอึ้งอยู่พักนึง แต่ก็ยังไม่เชื่อเขาทั้งหมด


เลยมาหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเพิ่ม ซึ่งก็ปรากฎว่าเป็นจริงอย่างที่ชาวบ้านบอกจริงๆ นั่นก็คือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จมาที่วัดนี้หลายต่อหลายรอบมาก ทั้งแบบเป็นทางการและมาส่วนพระองค์ โดยมาพูดคุยเรื่องธรรมะกับ หลวงปู่ขาว อนาลโย เกจิดังแห่งหนองบัวลำภู ต้องบอกตรงๆ ว่าผมไม่ได้อยู่ในวงการเกจิอาจารย์ดัง เลยไม่รู้จักหลวงปู่ขาวท่าน


แต่ว่าถ้าหากว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 เสร็จมาหลายต่อหลายครั้ง ต้องแสดงว่าท่านต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เลยตกลงว่าต้องไปเยี่ยมซักหน่อย อย่างน้อยก็ได้กราบพระอาจารย์องค์เดียวกันกับที่ในหลวงรัชกาล 9 ท่านนับถือ


วัดถ้ำกลองเพล ตั้งอยู่ที่บ้านถ้ำกลองเพล ตำบลโนนทัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งสมัยก่อนเป็นหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี วัดจะอยู่ทางซ้ายมือถ้าหากว่ามาจากจังหวัดอุดรธานี ก่อนที่จะขึ้นภูเขา วันที่ไปวัดค่อนข้างเงียบสงบดีครับหรือว่าอาจจะเช้าเกินไป หลายสิ่งกำลังสร้างอยู่ยังไม่เสร็จ เพื่อให้สวยงาม

มากขึ้น ทั้งโบสถ์ และอื่นๆ ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมถึงพึงจะมาสร้าง แล้วตอนที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จมา สภาพวัดจะเป็นแบบไหนนะ น่าจะเก็บเอาไว้ให้เราได้ดูก่อน คงจะต้องลำบากแน่ๆ เดินคิดอยู่พักนึง ก็เห็นป้ายปักเอาไว้ว่า เจดีย์หลวงปูขาว ก็เลี้ยวตามป้ายเลย ก็ได้พบกับเจดีย์หลวงปู่ขาวและได้กราบ

เจดีย์ท่านในที่สุด จากนั้นก็เดินชมไปเรื่อยๆ โดยวนเป็นวงกลม ก็ได้พบกับกุฏิของหลวงปู่ขาว เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ อยู่บริเวณซอกหิน ดูแล้วไม่แน่ใจว่าจะมีน้ำ มีไฟฟ้า หรือเปล่า ในสมัยก่อน ดูแล้วช่างมีชีวิตที่สมถะจริงๆ ก็เป็นความโชคดีที่ได้มากราบท่าน


ถ้าหากว่าเชื้อโควิด-19 หายแล้ว ก็ว่าจะพาครอบครับไปเที่ยวอยู่เหมือนกัน จังหวัดหลังเขาภูพานน้อย หนองบัวลำภู...

By: K.C.A.N


ปล. แจกเอกสารเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อโรค สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีครับ ==> คลิ๊กเลย

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2563

น่าน ๆ



ช่วงนี้โควิด-19 ระบาด ตามนโยบายภาครัฐ เลยไม่ได้ออกไปไหน อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ว่างๆ เลยเปิดรูปเก่าๆ มาดูแก้เบื่อ ก็เห็นรูปตอนที่ไปเที่ยวที่วัดภูเก็ต แต่อยู่ที่จังหวัดน่าน แล้วก็รู้สึกว่าสวยดี ภูเขาก็สวยมาก ตอนนั้นเป็นช่วงปี

ใหม่ จำได้ว่าอากาศเย็นสบาย วัดภูเก็ต อยู่ที่ตำบลบ้านเก็ต อำเภอปัว จังหวัดน่าน วัดตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ด้านหลังวัดเป็นหน้าผาโดยประมาณความสูงจากสายตาแล้วน่าจะอยู่ระหว่าง 5 - 10เมตร โดยทางวัดทำเป็นลานโล่งๆ กว้างๆ เห็นวิวแบบพาโนรามา  จะเห็นทุ่งนาข้าวของชาวบ้านในระแวกนั้น สลับกับแนว

ภูเขาสูงที่เป็นวิวอยู่ด้านหลัง พร้อมที่นั่งให้สามารถถ่านรูปเป็นที่ระลึกกันหลายจุด ซึ่งก็มีประชาชนเดินทางมาเยี่ยมชมกันเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าหากว่าเป็นยุคปัจจุบัน ก็คงจะทำไม่ได้แล้ว เพราะการรวมตัวของคนจำนวนมาก จะกลายมาเป็นจุดแพร่เชื้อที่สำคัญของเจ้าโรคโควิด-19 ที่สามารถติดต่อกันได้ง่ายมากๆ


โดยที่คนที่เป็นคนแพร่เชื้อไม่มีอาการของโรคเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมาก และคนที่แพ้เจ้าเชื้อโรคโควิด-19 นี้ จุดจบก็คือความตาย ซึ่งก่อนที่จะตาย เขาจะหายใจไม่ออกแม้จะพยายามหายใจแล้วก็ตาม ดังนั้นเพื่อเป็นการหยุดการแพร่เชื้อ ตามที่อาจารย์หมอทั้งหลายได้กล่าวเอาไว้ก็คือ โรคติดต่อ จะ


ไม่สามารถติดต่อได้ ก็คือคนเราต้องหยุดติดต่อกัน เอาไว้เจ้าโรคนี้หายไปก่อน แล้วเราค่อยออกไปเที่ยวกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะอีกนานเท่าไหร่ ตอนนี้ก็ทำได้เพียงทำตามภาครัฐอย่างเคร่งครัด อยู่บ้าน หรือถ้าหากว่าจำเป็นต้องออกไปข้างนอกก็ให้ใส่หน้ากากอนามัย และพยายามล้างมือบ่อยๆ ใช้สบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ช่วยในการฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะก่อนที่จะทานอาหาร หรือจะนำอะไรเข้าปาก


สุดท้ายนี้ ก็ขอให้ทุกคนปลอดภัย ดูแลตัวเองและคนที่เรารักให้ดีๆ จะออกไปไหนมาไหนก็ใส่หน้ากากอนามัยกัน เพื่อลดความเสียงในการรับเชื้อ และแพร่เชื้อ เพราะคุณอาจจะไม่เป็นอะไร แต่พ่อแม่ผู้สูงอายุที่อยู่ที่บ้านท่านอาจจะเป็นกลุ่มเสี่ยงถ้าหากว่าคุณไม่ทำตามที่หมอบอก... รักษาระห่างทางสังคม อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ กัน แล้วเราจะได้พาท่านออกไปเที่ยวอีกครั้งหลังจากที่โรคระบาดนี้หายไป มานั่งอ่านบล๊อกของ ผมจะหาที่เที่ยวที่เคยไปมา มาเล่าสู่กันฟังจะได้ไม่เบื่อครับ

BY : K.C.A.N