หัวฉีดชำระราคาถูก
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวไหน เลยไม่รู้จะแชร์ประสบการณ์เรื่องเที่ยวยังไง แต่ว่าก็เป็นช่วงเวลาที่อยู่บ้าน ซ่อมโน่นนี่นั่น เลยคิดว่าจะแชร์ประสบการณ์เรื่องเหล่านี้น่าจะดีกว่า เมื่อสองสัปดาห์ก่อน หัวฉีดชำระในห้องน้ำเกิดเสีย คือเวลากดให้น้ำไหลแล้วพอปล่อย แต่น้ำไม่ยอมหยุดยังคงไหลต่อเนื่อง สาเหตุเพราะว่าสปริงที่อยู่ด้านในมันน่าจะล้า เอาชนะแรงดันน้ำไม่ไหวแล้ว ต้องเอื้อมมือไปปิดวาวล์น้ำก่อน ให้แรงดันมันตกสปริงถึงจะสามารถดันวาวล์ให้ปิดได้ แล้วค่อยเปิดน้ำใหม่ ซึ่งไม่สะดวกต่อการใช้งานอย่างมาก พอใช้รอบหน้าก็ค้าง น้ำพุ่งไม่หยุดเหมือนเดิมอีก จึงจำเป็นต้องหาอันใหม่มาเปลี่ยน โดยได้ลองหาของจาก เว็บไซท์ขายของต่างๆ ซึ่งก็ตกใจว่าทำไมมันราคาถูกแบบนี้ แล้วมันจะใช้ได้จริงหรือ ? เพราะจำได้ว่าที่ซื้อมาครั้งก่อนในห้างๆ หนึ่งราคาแบบเป็นชุดมีสาย มีที่แขวนมีสกรูมาพร้อม ราคามัน 300-400บาทนะ แต่ทำไมแค่หัวฉีดอย่างเดียวราคาไม่ถึงร้อยบาท แถมเป็นสแตนเลสอีกด้วย. . .
และด้วยยุคนี้มันเป็นยุคข้าวยาก น้ำมันแพงด้วย ก็เลยตัดสินใจซื้อมาทดลองใช้ซัก 2อัน คาดว่าห้องน้ำอีกห้อง ก็น่าจะใกล้เสียแล้วเหมือนกัน เพราะตอนนั้นก็ซื้อมาเปลี่ยนพร้อมๆ กันรุ่นเดียวกัน เพียงแค่อันนึงใช้ที่ห้องน้ำข้างล่างอีกอันใช้ที่ห้องน้ำข้างบน ซึ่งจำนวนครั้งในการกดชำระก็น่าจะน้อยกว่า มันก็เลยยังพอใช้งานได้อยู่ แต่ก็เป็นไปได้ว่าอีกไม่นาน ก็คงจะเสียเหมือนกัน และถ้าซื้ออันเดียวค่าขนส่งก็จะแพง แต่ถ้าสั่ง 2อันค่าขนส่งมันก็จะหาร 2ไป รวม 2อันและค่าส่งแล้วก็ไม่เกิน 150บาท ถ้าซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ หรือว่าน้ำรั่ว หรือมีปัญหาใด ก็ราคา 134บาท ถือว่าซื้อประสบการณ์
หลังจาก 3วันผ่านไป ก็ได้รับสินค้า เปิดแพ็คออกมาดูต้องบอกว่าใส่กล่องมาสวยงาม งานก็สวยมากดูดีเลยทีเดียว อยากบอกว่าสวยงามเกินราคาก็ได้ ก็เหลือแต่ฟังค์ชั่นการใช้งาน และความทนทานแล้ว ว่าจะโอเคหรือเปล่า
จากนั้นก็รีบนำไปเปลี่ยนกับอันเดิมและทดลองใช้งานดูว่าจะมีน้ำรั่วหรือเปล่า เพราะที่บ้านใช้ปั๊มน้ำซึ่งจะมีแรงดันในระดับหนึ่งเลย กลัวว่าจะทนแรงดันน้ำไม่ได้ พอเปลี่ยนเสร็จ ก็เปิดวาวล์น้ำดู แบบค่อยๆ เปิดทีละน้อย เพราะกลัวว่าเปิดทีเดียวแรงดันน้ำจะทำให้มันพังก่อน ก็ปรากฎว่าน้ำไม่รั่ว ลองกดดู น้ำก็พุ่งออกมาดีเลย จากนั้นก็เปิดวาวล์จนสุดดูว่ายังโอเคอยู่หรือเปล่า ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านด้วยดีครับ
น้ำแรงกว่าอันเดิมเสียอีก และน้ำก็ไม่รั่วด้วย ตอนนี้ก็เหลือฟังค์ชั่นสุดท้าย ก็คือความทนทาน ว่าจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ ซึ่งตอนที่เขียนบล๊อกนี้ ก็ใช้งานผ่านมาแล้วประมาณ 2สัปดาห์ ก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ แต่ว่าอันเดิมที่ราา 300-400 บาท อยู่ได้นานถึง 2ปีกว่า ต้องคอยดูว่าอันนี้จะมีอายุการใช้งานนานขนาดไหนอีกครั้ง แต่ว่าโดยรวมแล้วก็โอเคมากครับ สามารถแนะนำและบอกต่อความประหยัดกันได้
By: KCAN
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น