วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ทำบุญ ทำใจ รำคาญ

ทำบุญ ทำบุญ ทำบุญ. . .

    วันนี้เป็นวันที่ล๊อตเตอรี่ออก เมื่อวานตอนเย็นลูกเปิดเดี่ยว 13 ให้ดู แล้วก็ขำมากมายสไตล์คุณโน๊ต อุดม โดยเฉพาะช่วงวิจารณ์นายกฯ ชอบที่สุดก็ตรง "ทำใจ ทำใจ ทำใจ" นี่แหละ วันนี้เลยขอมาทำบุญ ทำบุญ ทำบุญ ให้ท่านซักหน่อย เฝื่อว่าท่านจะดีดตัวออกไปจากเครื่องบินประเทศไทยซักที 555  แนะนำให้ไปอยู่ดูไบนะครับ หลังจากดีดตัวออกไปแล้วอ่ะ

    วันนี้คุณภรรยาเขาเลือกมาที่วัดพระยาสุเรนทร์ ซึ่งที่ดูในแผนที่ Google แล้วก็ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่จากบ้าน บอกตรงๆ แต่บอกเลยว่าผมไม่เคยมาเหมือนกัน ปกติก็จะไปแต่วัดแถวบ้าน วันนี้มาซะไกลเลย  สอบถามว่าทำไมต้องวัดนี้ เพื่อนชวนหรือว่ายังไง  ภรรยาผมบอกว่ามาจาก Tiktok. . . งงไปเลยครับ เลยถามต่อว่า ใน Tiktok เขาว่ายังไงถึงได้อยากมา 

    ภรรยาบอกว่าเขามีงานทอดกฐิน โดยมีเบลล่ามาเป็นประธาน ก็เลยยิ่งงงไปใหญ่ เลยสอบถามต่อว่า เป็นติ่งเบลล่าตั้งแต่เมื่อไหร่? อยู่กันมา 20กว่าปีไม่เคยเห็นว่าจะชอบดารามากมายขนาดว่าอยากไปเจอเขาเลย พอถามเสร็จ แม่คุณก็หันมามองแล้วก็ถามกลับมาว่า ตกลงจะพาไปหรือเปล่า ??? ผมก็เลิกถามแล้วก็เดินไปอาบน้ำแต่งตัว...


    ประมาณ 10โมงเศษ ก็มาถึงที่วัด ก็ต้องบอกว่าวัดสวยดีครับ งานทอดกฐินก็จัดใหญ่เลย ผมก็เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ และก็เดินตามคุณภรรยาไปไหว้หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ และก็ไหว้พระประธานในโบสถ์ และสุดท้าย ท้ายสุดก็มาจบที่ท่านท้าวเวชสุวรรณ... (นึกเอาไว้อยู่แล้ว) ว่ามาทำไม แต่เอาเบลล่ามาอ้าง 555 แถมโมโหให้เราอีกมันน่าไหม 

    แต่ก็คิดว่ามาทำบุญแล้ว อย่ามีปัญหากันจะดีกว่า ความสุขของเขา และก็มีส่วนหนึ่งที่เป็นความสุขของเราด้วย แค่ไม่ใช่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นเรื่องการได้มาในสถานที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยได้มา ได้ถ่ายรูปได้ทำบุญ และอืนๆ แค่นี้ก็โอเคแล้ว 


 หลังจากที่ได้สมปรารถณาเรียบร้อยแล้ว ก็ชวนกลับบ้านซะงั้น ตอนแรกว่าจะถามว่าเบลล่ามาตอนสี่โมงเย็นนะไม่รอรึ แต่อย่าถามดีกว่านะ กลับก็กลับ พอบ่ายสี่โมงทุกอย่างก็กลับเป็นปกติ คือไม่ถูกอะไรเลย  อย่างที่เขาว่าจริงๆ "เช้าวุ่นวาย สายตื่นเต้น เย็นนั่งเศร้า" จบข่าว 555 


วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2565

พาหลานสาวไปร่องเรือเจ้าพระยา

 พาหลานสาวไปร่องเรือเจ้าพระยา

"ประสบการณ์สร้างคน และคนสร้างชาติ. . ." คำพูดที่ไม่รู้ว่าเป็นของใครแต่ว่า ภรรยาของผมเขาชอบมาก และชอบสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับคนที่อาจจะไม่ค่อยจะได้มีโอกาส ที่จะทำสิ่งนั้นๆ ได้ด้วยกลายๆ ปัจจัย 

    ก่อนอื่นก็ต้องขอออกตัวเอาไว้ก่อนนะครับว่าครอบครัวผมไม่ใช้คนที่ร่ำรวยมากมายอะไร ก็เรียกว่าพอมีกินมีใช้เหมือนๆ กับหลายๆ ครอบครัว มีเงินเก็บไม่มากไปกว่าหนี้สิ้นที่มี แค่ว่าเป็นหนี้บ้านที่อยู่ในระบบ เลยเสียอัตราดอกเบี้ยเป็นปกติ สวนหนี้อื่นๆ จะมีบัตรเครดิตบ้างเป็นครั้งคร่าวที่หมุนเงินเดือนไม่ทัน เช่นค่าเทอมลูก 2 คน มาเก็บตอนเดือนที่รถเสีย อะไรประมาณนั้นครับ 

    ส่วนการพาหลานสาวกับน้องชายมาร่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาในครั้งนี้ก็เป้นเพราะว่าโชคช่วย โดบภรรยาผมเขาเป็นแนวๆ เสี่ยงโชคอยู่แล้ว งวดนึงจะซื้อล๊อตเตอรี่เก็บเอาไว้อย่างน้อยๆ ก็มี 5ใบ หรือเดือนละไม่เกิน 1,000บาท เขาก็จะพูดคล้ายๆ กับพ่อผมบอก ว่าเฝื่อโชควิ่งชน แต่พ่อผมก็จะซื้อเอาไว้แค่งวดละ 1-2ใบเท่านั้นในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ว่าสำหรับผมเคยมีหมอดูมาทำนายทายทักว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีเรื่องโชคเท่าไหร่ ถ้าจะมีก็ต้องทำเอาสร้างเอาเองเท่านั้น ดังนั้นผมเลยเป็นคนที่ไม่ค่อยจะซื้อล๊อตเตอรี่เท่าไหร่ นอกจากนานๆ ครั้ง เดือนละ 1ใบ หรือ 2เดือน 1ใบ เรียกว่าไม่ค่อยจะอินกับเรื่องพวกนี้ ซึ่งแต่ต่างกับกับภรรยาผมมากๆ ในเรื่องนี้ 

    แต่ว่าในครั้งนี้ ภรรยาผมอาจจะพูดถูก เพราะว่าแกถูกล๊อตเตอรี่ รางวัลเลขท้าย 3ตัว 3ใบ โดยเป็นการเลือกจากหลานสาวผมเอง ก็ไม่รู้ว่าไม่ซื้อกันตอนไหน แต่พอถูกแล้ว ภรรยาผมก็สอบถามหลานสาวว่าอยากได้อะไร หลานสาวก็บอกว่าไม่อยากได้ แต่ภรรยาก็บอกว่าจะพาไปกินข้าวแล้วกัน

   และนั่นก็เป็นที่มาของการมาร่องเรือในครั้งนี้ ซึ่งก็มาด้วยกัน 6คน โดยมีลูกสาวผมมาด้วย 2คน และน้องชายผมอีกหนึ่งคน โดยครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 สำหรับผม ภรรยาผมเองก็เป็นครั้งที่ 3 เช่นกัน รวมถึงน้องชายผมด้วยที่มาเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาร่องเรือ แต่ว่าก็เป็นครั้งแรกของลูกสาวทั้ง 2คนและหลานสาวด้วย

        ซึ่งประสบการณ์แรกของเขา ก็ดูน่าตื่นเต้นไม่น้อย โดยขึ้นเรือที่ท่าน้ำ River City และก็วิ่งไปทางด้านสะพานพระรามแปด จากนั้นก็กลับเรือ วิ่งย้อนกลับไปทาง สะพานกรุงเทพ และก็กลับเรืออีกครั้งที่ เอเชียทีค ก่อนที่จะกลับมายังท่าเรือ River City โดยปรมาณ 2ชั่วโมงเศษ

    ลูกสาวเองก็บอกว่าสวยมากๆ และเหมือนว่าเมืองหลวงของเรา จะถูกแบ่งแยกโดยสะพานพุทธ ด้านนึงจะดูเป็นแบบวัฒนธรรม อีกด้านนึงเป็นแนวอาคารสูงมากแบบต่างประเทศ สวย 2แบบเลย จะพาเพื่อนๆ มาอีกแน่ๆ 

By: KCAN

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2565

เงินบาทอ่อนเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ

เงินบาทอ่อนเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ     ทำให้ราคาสินค้าของไทยที่ขายไปยังอเมริกาต่ำลงอย่างมาก ซึ่งเป็นข้อดีอย่างยอดเยี่ยมสำหรับประเทศไทยเรา ทำให้คนอเมริกาสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าจากประเทศเราได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาคือการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกา ก็จะมีราคาแพงขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ๆ เราก็หยุดนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นจากสหรัฐอเมริกา ชั่วคราวก่อน นำเข้าเฉพาะสินค้าที่จำเป็นเท่านั้นพอ และหาแหล่งวัตถุดิบจากประเทศอื่น ที่ค่าเงินอ่อนเหมือนบ้านเรามาแทนที่ ส่วนเรื่องของพลังงานต่างๆ ที่เรานำเข้าจากประเทศอื่น แต่ยังจ่ายเงินเขาเป็นสกุลดอลล่าร์ที่จะต้องนำเงินบาทไปซื้อดอลล่าร์ก่อนแล้วค่อยจ่ายให้เขา ก็พยายามเจรจากับผู้ขาย ขอจ่ายเป็นเงินสกุลอื่นที่เขายอมรับได้แทน หรือเปลี่ยนที่ซื้อแทน เช่นขอนำเข้าจากรัซเซีย จีน หรือ อินเดีย แทน และจ่ายเป็นสกุลเงินรูเบิ้ล หยวน หรือ รูปี เป็นต้น

    ต้องเข้าใจว่าตอนนี้สหรัฐอเมริกากำลังจ่ายหนี้สินที่ได้ก่อเอาไว้อย่างมหาศาล และกำลังดึงเงินดอลล่าร์ที่พิมพ์ทิ้งพิมพ์ขวางออกมาสู่ตลาดโดยไม่มีทองคำหนุนหลังจำนวนมาก ด้วยการให้ดอกเบี้ยสูงๆ เพื่อดึงเงินกลับไปทำลายทิ้งและรัฐบาลจะต้องหาเงินมาจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูงๆ ด้วย มันเป็นธรรมชาติ เราก็ต้องนำเงินดอลล่าน์ที่มีอยู่ไปฝากเพื่อกินดอกเบี้ย แต่ต้องเป็นเงินเย็นนะครับ คือเป็นเงินที่ไม่รีบร้อนใช้ ให้ฝากกินดอกเบี้ยไปนานๆ จนกว่าสหรัฐฯ จะดึงเงินดอลล่าร์กลับประเทศจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว จากนั้นอัตราดอกเบี้ยก็จะลดลงมาเอง เพราะรัฐบาลคงจะไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยที่มันสูงๆ ไปได้นานนักหรอกครับ แต่ก็ต้องระวังๆ เอาไว้ด้วยครับ เอาเงินไปฝากกับคนทีเป็นหนี้เยอะๆ ก็อาจจะโดนโกงได้เช่นกัน ถ้าประเทศไม่มีเงิน

    ดังนั้นตอนนี้รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกาก็ต้องหาเงินจำนวนมากๆ มาใช้ในการจ่ายดอกเบี้ย และวิธีการเดียวที่ทำได้ก็คือ ขายอาวุธสงคราม เพราะเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้อย่างมหาศาลที่สุดของสหรัฐฯ แล้ว ดังนั้นถ้าหากว่าโลกสงบสุข แล้วเขาจะขายอาวุธให้กับใคร ดังนั้นก็ต้องก่อสงคราม ทั้งในยูเครน และไต้หวัน ที่จะเป็นชนวนในการจุดสงครามได้ และก็ทำสำเร็จในยูเครน และรัสเซีย และก็พยายามที่จะทำให้ไต้หวัน เป็นชนวนต่อไป การที่จีนเปิดการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน ยิ่งทำให้ไต้หวันสั่งซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ อย่างมโหฬาร และเข้าทางสหรัฐอเมริกา ทางที่ดีจีนควรที่จะเดินหน้าเรื่องการค้าขายกับไต้หวันมากกว่า ในทุกมิติ รวมถึงขายอาวุธให้ไต้หวันด้วย และสิ่งที่ไต้หวันต้องการคือประชาธิปไตย ดังนั้นก็ต้องเล่นในเกมประชาธิปไตย โดยตั้งพรรคการเมืองในไต้หวันเพื่อแข่งขันกันตามกติกา โดยไม่พยายามเปลี่ยนกฎที่เขาปฏิบัติอยู่ ดังนั้นนอกจาก 1ประเทศ 2ระบบแล้ว จีนเองก็ต้องยอมรับ 1ประเทศ 2ผู้นำด้วย ถ้าหากว่าพรรคที่ทางจีนตั้งขึ้นมาแพ้เลือกตั้ง ก็ต้องยอมรับด้วย แต่ถ้าพรรคการเมืองที่จีนตั้งในไต้หวันชนะเลือกตั้งนั่นแหละ ก็จะทำให้มี 1ผู้นำ

    ดังนั้นผู้นำโลกจะต้องเห็นเหลี่ยมกลของประเทศสหรัฐฯ ถ้าหากว่าเขาพยายามก่อสงคราม แต่ผู้นำประเทศอื่นๆ พยายามทำให้มันสงบ แน่นอนว่า เขาก็จะขายอาวุธไม่ได้ และแน่นอนว่าเขาจะไม่มีเงินในการจ่ายดอกเบี้ย สุดท้ายเขาก็เจ้งแน่นอน แต่ ณ ตอนนี้ทุกประเทศไม่ได้ทำอย่างนั้น เพราะกลัวว่าถ้าสหรัฐฯ เจ้งแล้วใครจะมาจ่ายหนี้ให้ เพราะทุกประเทศเป็นเจ้าหนี้ของสหรัฐอเมริกาแทบทั้งนั้น...

    ในส่วนประเทศไทย ขอให้เดินตามแนวทางความสงบและความสุขของคนในชาติเป็นหลัก เน้นค้าขายหารายได้เข้าประเทศ ดีกว่าเน้นสงครามตามความต้องการของมหาอำนาจ เราอาจจะมีขั้วทางการเมือง แต่เราจะต้องไม่มีขั้วในสังคมโลก ดังนั้นในช่วงเวลานี้ค่าเงินอ่อน เราควรเร่งส่งออกให้มากขึ้น อย่าไปแทรกแซงค่าเงินเพราะจะเข้าทางมหาอำนาจ ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เน้นส่งออกสินค้าไทยด้วยเงินบาท หรือดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเพื่อดึงค่าเงินบาทให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้เงินบาทเป็นที่ต้องการ เจรจาประเทศเพื่อนบ้านให้สามารถใช้เงินบาทในบ้านเขาได้ ซื้อขายในระบบเงินบาท และสกุลอื่นแทน และอื่นๆ แต่อย่าแทรกแซงค่าเงินเด็ดขาด... ซึ่งคิดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยเขารู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว

    ไม่มีคนรวยคนไหนอยากอยู่ในประเทศที่มีสงครามแน่นอน  เพราะถ้ามีสงครามเกิดขึ้น คนรวย เขาก็ย้ายหนีกันหมด เหลือเอาไว้แต่คนจนที่รับกรรมในประเทศกันต่อไป... 


By: KCAN