วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แบตเตอรี่ลิเธียมฯ ตามสั่ง
ร้านมะตะบะอร่อย...
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดเลย เพราะลูกสาว ตอนนี้ทำงานอยู่แถวๆ ศรีนครินทร์ จะกลับมาบ้านทุกวันศุกร์ เพื่อเรียนเรียนภาษาจีนช่วงวันเสาร์ หรือไม่ก็วันอาทิตย์ ไม่แน่นอน แล้วแต่เหล่าซือจะว่างวันไหน ทำให้วางแผนเที่ยวได้ลำบาก ดังนั้นส่วนมากก็จะตระเวนหาที่กินที่ใกล้ๆ บ้านแทน
ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ก่อนที่ผ่านมา ตอนจะออกไปส่งลูกสาวกลับหอพัก
The family trip @Kannajaburi Part II
สวัสดีเช้าวันที่ 2 ของ ทริปสังขละบุรี
ทีพักของเราพอดีอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดวิเวกวังการาม ซึ่งมีพระองค์ใหญ่ตั้งอยู่ โดยมีทะเลสาปกั้นอยู่ ซึ่งผมเองก็พึ่งจะรู้ว่าเข้าเรียกกันว่าฝั่งไทย ส่วนฝั่งวัดวิเวกวังการามเขาเรียกกันว่าฝั่งมอญ โดยเชื่อมกันด้วยสะพานมอญ
วันนี้เราออกจากที่พักประมาณ 10โมงเช้า หลังจากที่กินข้าวเช้าอีกชื่อหนึ่งก็คือที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว และอาบน้ำแต่งตัวกันพร้อมลุยต่อในวันที่ 2
วัดวิเวกวังการามเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างวัดไทย และวัดทางเมียนมา ดูสวยแปลกตาแต่ว่าสวยไปอีกแบบนึงเลย สงบ ร่มรื่น หลังจากไหว้พระกันเสร็จก็เดินดูรูปประวัติของวัดตามทางเดิน ซึ่งมีช่างภาพมืออาชีพมาถ่ายรูปและเอามาแขวนแสดงเอาไว้ตามทางเดินเยอะมาก เรียกว่าแต่ละภาพสวยๆ ทั้งนั้น มีทั้งภาพวิถีชีวิตชาวบ้าน ภาพประวัติของวัด ของสะพานมอญ และอิ่นๆ เยอะมาก ดูกันเพลินๆ เลยทีเดียว
แต่ด้วยการเมืองภายในของประเทศเพื่อนบ้านทำให้ไม่สามารถที่จะเดินทางเข้าไปในประเทศของเขาได้ เพราะยังไม่สงบจากสงคราม เลยทำได้แค่เดินเล่นในตลาดฝั่งบ้านเราเท่านั้น แต่ก็จะมีคนขายของที่นำสินค้าจากประเทศเมียนม่า และประเทศจีนเข้ามาจำหน่ายจำนวนมาก โดยส่วนมากจะเป็นขนมต่างๆ บุหรี และเหล้า นอกนั้นก็จะมีของกินพื้นเมืองทางฝั่งเมียนม่าบ้าง หลังจากที่เดินในตลาดเพื่อซื้อของฝากเพือนๆ ที่ทำงานกันจนครบทุกคนแล้ว
วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
The family trip @Kannajaburi I
นานมากแล้วที่ไม่ได้ไปเที่่ยวตางจังหวัดด้วยกันแบบครบครอบครัว ตั้งแต่แม่ไม่ค่อยสบาย จนแกจากไป และลูกสาวคนที่ 2 ไปทำงานที่ออสเตรเลียอีก 1ปี... นี่เป็นทริปแรกหลังจากที่ไม่ได้ไปมานานกว่า 2-3ปีเลย เป็นการเที่ยวเพื่อต้อนรับลูกกลับบ้าน 1เดือน ก่อนจะบินกลับไปทำงานต่ออีก 1ปีที่ออสเตรเลีย...
ทริปนี้ลูกสาวคนโตเป็นคนวางแผน เพราะเคยบอกว่าอยากไปมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้ไปซักที นั่นก็คือ อำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรี โดยลูกสาวขอให้ทุกคนลางานวันศุกร์ เพื่อจะได้ไปเที่ยวกันได้หลายวันมากขึ้น ซึ่งก็ต้องทำตามคำขอร้องของลูกสาว โดยทริปนี้จะเริ่มวันที่ 24/10/2025 - 26/10/2025 3วัน 2คืน
โดยวันที่ 24 ออกเดินทางกันประมาณ 8โมงกว่าๆ โดยคร่าวว่าจะไปถึงประมาณบ่ายสามโมง ถึง สีโมงเย็น เพระระยะทางจากที่บ้านมาถึงอำเภอสังขบุรีจะประมาณสามร้อยกว่าเกือบสี่ร้อยกิโลเมตรเลยทีเดียว วันนั้นเราแวะกินข้าวเช้ากันง่ายๆ ที่ปั๊มน้ำมันบนถนนสาย 345 ก็เป็นข้าวเหนียวหมูปิ้ง กับอาหาร ขนม และน้ำในร้านสะดวกซื้อ เพราะว่าลูกสาวคนที่ 2 ทีกลับจากออสเตรเลียบอกว่าอยากกินอาหารในร้านสะดวกซื้อของไทย เพราะว่าที่ออสเตรเลียไม่มีขายเลยอยากกิน
จากนั้นเราก็เดินทางต่อมาออกทีวงแหวนตะวันตก เพื่อขึ้นมอเตอร์เวย์สาย 81 ไปยังกาญจบุรี ซึ่งอยากบอกว่าลดเวลาเดินทางได้เยอะมากทีเดียว เราไปถึงตัวเมืองกาญฯ เวลา 10โมงนิดๆ เท่านั้น สถานที่ที่แรกที่แวะเที่ยวคือ ช่องเขาขาด ซึ่งเคยพาเด้กๆ มาครั้งนึงแล้วเมื่อ10กว่าปีก่อน ตั้งแต่สมัยที่โรงถ่ายภาพยนต์เรื่องสมเด็จพระนเรศวรดังมาก ตอนนั้นก็มาครั้งนึงแล้ว แต่ว่าเด็กๆ บอกว่าจำไม่ได้แล้ว ก็เลยแวะ ซึ่งการแวะในครั้งนี้ก็ทำให้ลูกสาวคนที่ 2 แปลกใจมาก เพราะว่าสถานที่แห่งนี้ถูกส่งเสริมและช่วยเหลืออย่างเป็นทางการจากประเทศออสเตรเลียทั้งหมด เป็นพิพิธภัณฑ์ทีมีชื่อว่า Hellfire Pass (Konyu Cutting), Thai-Burma Death Railway
เท่าที่ผมจำได้ ก็ไม่แตกต่างจากสมัยก่อนมากนัก ทุกอย่างฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วแต่เราจะบริจาค แต่ที่มีการพัฒนาขึ้นก็คือเรื่องการใช้เครื่องมือในการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ ซึ่งสามารถยิมได้ฟรี ที่ชั้นล่างของตัวอาคาร และนำไปสแกนตามจุดต่างๆ ที่เดินผ่าน โดยจะมี QR code ให้สแกนตามบริเวณต่างๆ เพื่อรับฟังการเล่าประวัติ ณ บริเวณนั้นๆ และมีให้เลือกได้หลายภาษา แต่คณะเราไม่ได้ยืมมา แค่เดินเก็บภาพบรรยากาศกันเฉยๆ โดยเราใช้เวลาไปประมาณ 30นาที จากนั้นก็มานั้นหากาแฟ ชาเขียว เค๊ก กินกันอีก 15นาทีได้แก้เหนื่อยจากการเดิน ก่อนจะออกเดินทางต่อ
หลงทาง... ไปไกลกว่า 70กิโลเมตร...
จากความมั่นใจของคุณพ่อ พาทั้งครอบครัวขับรถหลงทางไปไกลกว่า 30กม.ไปกลับก็ 70กว่ากิโเมตรเลยทีเดียว ไม่รู้ตัวว่าออกจากเส้นทาง 323 เข้าไปทางอำเภอทองผาภูมิถนน 3272 ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะจากแผนที่ใน Google ตอนที่ดูอยู่ที่ช่องเขาขาด จะวิ่งตรงตลอดตามถนนสาย 323 ไปจนถึงตัวอำเภอเมืองสังขละบุรีเลย เราก็วิ่งตรงตลอด ไม่เลี้ยวไหนเลย จนลูกสาวทักว่าทำไมเรามาทางนี้ เราไม่ได้กำลังไปอำเภอสังขละบุรีแล้วนะป๊า แต่เรากำลังไปหมู่บ้านปิล๊อก... ตอนนั้นก็เกือบบ่าย 3โมง เลยงงอยู่พักนึงจนหาที่จอดรถที่ปลอดภัยได้ ก็เปิดแผนที่ดู ซึงก็คือหลงมากว่า 37กิโลเมตร แล้วก็กลับรถวิ่งย้อนกลับจนถึงทางเลี้ยวพื่อขับต่อบนถนน 323 มาถึงตรงจุดเลี้ยวก็สีโมงเย็น ลูกสาวก็บอกว่าแวะกินข้าวก่อนดีกว่า เพราะเที่ยงก็ไม่ได้กิน อีกอย่างคือปวดท้องฉี่กันด้วย เพราะไม่มีปั๊มน้ำมันเลย
หลังจากกินข้าวกันเสร็จ เราก็เดินทางกันต่อให้เส้นทาง 323 ใช้เวลาอีก ชัวโมงเศษ กว่าจะถึงอำเภอสังขละบุรี ประมาณ หกโมงกว่ากันเลย... หลังจากที่เช็คอินเข้าที่พักกันแล้ว ก็ออกมาขับรถชมเมืองยามเย็น แวะตลาดหาเครื่องดื่ม และขนมคบเคี้ยว แล้วก็แวะไปชมสะพานมอญยามค่ำคืนกันซักพัก พักใหญ่ๆ กว่าจะกลับเข้าที่พักอีกครั้งคือ 2ทุ่มกว่าๆ ก็ทยอยกันไปอาบน้ำ พักผ่อนกัน บ้างก็ดูมือถือ บ้างก็ฟังเพลง วาดรูป บ้างก็อาบน้ำ ส่วนผมก็นั่งดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ซักขวด เป็นยานอนหลับ สรุปวันแรกได้เที่ยวแค่ที่เดียว ส่วนที่เหลือก็คืออยู่บนรถกัน...
แล้วจะมาเล่าต่อในบล๊อกถัดไปสำหรับวันที่ 2 และ 3
By: KCAN
วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568
สงครามไทย - กัมพูชา 2025
จุดที่ทำให้เกิดการประทะก็คือเมื่อทางกัมพูชาได้เข้ามายึดปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมืองธม โดยบอกว่าเป็นของกัมพูชา จนทำให้แม่ทัพ (ภาคที่ 2) ของไทยไม่ยอมและสั่งปิดชายแดน กระทบกับธุรกิจสีเทา รวมถึงบ่อนการพนันทางฝั่งกัมพูชาอย่างมาก ทำให้งูเฒ่าไม่พอใจ และโมโหการกระทำของแม่ทัพภาคที่ 2 เรา แต่จุดพีคก็คือเรื่องคลิปเสียงที่นายกฯ ไทย โทรไปเจรจากับงูเฒ่า โดยบอกว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนละฝั่งกับตัวเอง... โดยตัวเองถูกไล่ให้ไปเป็นนายกฯ ที่กัมพูชาแล้ว เลยอยากให้ UNCLE ช่วย และ UNCLE อยากได้อะไรเดี๋ยวหลานจัดให้... ซึ่งก็มีผลด้านการกระทำ เมื่อมีหลายต่อหลายคลิปที่นายกฯ พยายามจะให้ทางกองทัพเปิดด่วนให้ตรงกับทางกัมพูชา...
ทำให้ประชาชนไทยตาสว่างมากๆ ว่าเหตุการโดยลำดับมันเป็นอย่างไร ตั้งแต่ MOU43, MOU44 จนถึงปัจจุบัน ที่แท้ก็คือธุรกิจระหว่าง 2 ตระกุลนั่นเอง และเกิดการคุยไม่ลงตัว...
วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2568
ไปเที่ยวพัทยาแบบเล่นน้ำสระ...
นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้มาที่พัทยา...
จำได้ว่าครั้งหลังสุดที่ไปคือช่วงโควิทกำลังระบาดหนักๆ เลย ร้านริมหาดปิดกันแทบหมด ชายหาดเงียบมาก ตอนนั้นรู้สึกว่าดีมากเลย เหมือนหาดส่วนตัวมากๆ
อยู่ๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณภรรยาก็บอกว่า เพื่อนชวนไปเที่ยวพัทยา เป็นรีสอร์จแบบ Pool villa เลยสอบถามว่าเพื่อนคือใคร แล้ว Poll villa ที่พัทยาอ่ะที่ไหน คำตอบคือต้องรอก่อนยังไม่แน่ เลยถามต่อว่าแล้วเสาร์-อาทิตย์นี้หยุดใช่หรือเปล่า ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า "ใช่"
จากนั้นก็เงียบหายไป 2วัน จนประมาณวันพฤหัส ก็บอกว่า โอนเงินไปจองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็สอบถามว่าชื่อรีสอร์อะไร อยู่ตรงไหนของพัทยา คุณภรรยาก็ส่งเป็นลิงค์เข้าในกลุ่มไลน์ ซึ่งก็มีชื่อว่า "เป็นต่อ house colors pool" ไม่ได้อยู่ติดทะเลนะ ราคาไม่แรงมาก ก็ตามสไตล์คุณภรรยาของผมอยู่แล้วครับ ทำก่อนแล้วค่อยบอกทีหลัง ฮ่าๆๆ เลยเหมือนโดนบังคับให้ไปแบบกลายๆ
และเมื่อวันเสาร์มาถึง ก็ออกเดินทางจากบ้านมุ่งสู่หาดพัทยาเหนือ โดยตั้งใจว่าจะไปกินข้าวเที่ยงกันที่ริมหาดกันก่อน แล้วก็ค่อยแวะซื้ออาหารทะเล ที่ตลาด แล้วก็เข้าที่พัก เพื่อทำอาหารเย็นกัน แต่ทว่าไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง หาดพัทยาเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งคนไทย ทั้งคนต่างประเทศ เยอะไปหมด หาที่จอดรถริมหาดกันไม่ได้เลย ขับรถวนไปแล้วก็วนมา คั้งแต่พัทยาเหนือจรดพัทยาใต้ แล้วก็วนอยู่ 2-3ครั้ง...
ในมี่สุดเมื่อทนความหิวไม่ไหว ก็เลยเปลี่ยนแผนเป็นร้านอาหารตามถนนที่พัทยาเหนือแทน ฮ่าๆๆๆ ง่ายและอิ่มเหมือนกัน แค่ไม่เห็นวิวทะเลก็เท่านั้น... เมื่อกินมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว ก็ต้องไปตลาดกันต่อ ตามแผนที่วางเอาไว้ โดยเลือกไปที่ตลาดเทศบาลบางละมุง เพื่อให้ง่ายในการเดินทางต่อไปยังที่พักที่จองเอาไว้ เพื่อเลียงรถติดตามถนนริมของหาดพัทยาด้วย และหาที่จอดรถได้ง่ายกว่า
บ่าย 2 เศษ เราก็มาถึงที่พักกันครับ โดยที่พักแบ่งเป็น 2 อาคารด้วยกัน โดยแต่ละอาคารจะหันหน้าเข้าสู่สระว่ายน้ำ อาคารแรกเป็นห้องนอน จะแบ่งเป็น 3 ห้องนอนด้วยกัน และในแต่ละห้องจะสามารถนอนได้ 3-4คน เพราะจะมีเตียง 2 ชั้น และเตียงคู่อีก 1เตียง อาคารที่ 2 จะเป็นอาคารนันทนาการ มีโต๊ะ Pool พร้อมห้องครัว และคาราโอเกะ ชึ่งก็แน่นอนครับ ต่างคนต่างทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบเลย เวลานี้เป็นอิสระ ใครใคร่เล่นน้ำเล่น ใครใคร่ร้องคาราโอเกะก็ร้อง ส่วนผมก็หาเครื่องดื่มเย็นๆ ดับกระหายครับ...
หมดวันแรกไปด้วยความรวดเร็ว คืนนั้นก็ทั้งร้องเพลงทั้งกินดื่มกันจนดึกเลยทีเดียว ประมาณ เที่ยงคืนกว่าเห็นจะได้ จากนั้นตอนเช้าก็ตื่นมาทำการเก็บกวาด ล้างถ้วยชามของเมื่อคืน จากนั้นก็เล่นน้ำกันครับเป็นการออกกำลังกายตอนเช้า ก่อนที่จะเริ่มทำอาหารเช้ากัน ก็เป็นอาหารง่ายๆ แต่ว่าอร่อยครับ ทั้งข้าวต้มทะเล ไข่เจียว และก็มีพวกขนมปัง กาแฟ ของทางที่พักร่วมด้วย โดยเราต้องเช็คเอาท์ออกจากที่พักก่อน 11โมงเช้า
By: K.C.A.N






















































