หลายคนอาจจะรู้จัก และคุ้นเคยกับเครื่อง AED นี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในวงการแพทย์ วงการกู้ชีพฉุกเฉิน แต่ผมเชื่อว่ายังเป็นคนส่วนน้อยของสังคมที่รู้จักกับเจ้าเครืองนี้ และรู้ถึงความสำคัญและใช้งานเจ้าเครื่องนี้เป็น แต่คนส่วนใหญ่ในสังคมผมเชื่อว่าไม่รู้จักกับเจ้าเครื่องนี้เลย และให้ความสำคัญกับเจ้าเครื่องนี้น้อยมากๆ เพราะคิดเสมอว่าเป็นเครืองมือทางการแพทย์ และคนที่ใช้ก็ควรจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก
วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2565
รู้จักกับเครื่อง AED (Automatic External Defibrillator)
วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2565
วันแม่ 2565
วันแม่ 2565 อีกหนึ่งเทศกาลที่ได้ไปเที่ยวกันครบครอบครัว โดยคุณภรรยาเป็นตัวตั้งตัวตีในการไปในครั้งนี้ จุดหมายก็คือ ไร่สายธารา รีสอร์จ ต.ชะอม อ.แก่งคอย สระบุรี อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ จากทางรีสอร์จนะครับ
วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2565
ชีวิคคนเราก็เพียงนักเดินทาง...
มีคนบอกว่า เราทุกคนเป็นนักเดินทางตลอดช่วงชีวิต
สงสัยไหมครับทำไมเขาถึงบอกแบบนั้น ที่เขาบอกก็คือเราเดินทางรอบดวงอาทิตย์ หนึ่งรอบในทุกปี ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงเลยใช่ไหมครับ ว่าแต่คุณเดินทางรอบดวงอาทิตย์กันมาแล้วกี่รอบ ? และการเป็นนักเดินทางที่ดีก็คือ ต้องไม่แบกอะไรติดตัวเราไปมากนัก ต้องทำตัวให้สบายๆ ถ้ามีอะไรหนักเกินไปก็วางลง หรือทิ้งมันไปซะ เพราะมันจะเป็นอุปสรรคในการเดินทางอย่างมาก อย่าแบกทุกอย่างไปตลอดชีวิต เพราะมันก็จะหนักมาก
การเป็นนักเดินทางเวลาที่เราไปนอนค้างที่ใด เวลาที่ได้ห้องพักที่ดี เราก็นอนกันไปปกติ แต่ถ้าได้ห้องที่ไม่ดี ก็อย่าไปตีโพยตีพาย ให้คิดซะว่านอนคืนเดียว เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็ไปแล้ว โดยสิ่งที่คนที่เล่าเรื่องต้องการที่จะเปรียบเทียบก็คือ ชีวิตของคนเรา
ว่าชีวิตคนเราเหมือนคนเดินทาง อย่าไปจริงจังอะไรมากนัก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ทุกอย่างที่เราเดินทางผ่านในชีวิตของเราจะเป็นเรื่องชั่วคราวทุกอย่าง ช่วงเวลาเดินทางในวัยเด็ก เราจะมีตำแหน่งเป็นลูก ของพ่อแม่ เป็นลูกศิษย์ของ ครูบาอาจารย์ จนกระทั่งเวลาที่เดินทางมาเป็นวัยทำงาน เราก็จะมีตำแหน่งต่างๆ ตามอาชีพ เมื่อแต่งงาน ก็จะมีตำแหน่ง สามี ภรรยา พอเราเดินทางมาจนเรามีลูก เราก็จะมีตำแหน่ง พ่อ หรือแม่
จากนั้นพอเราเดินทางมาสู่วัยชรา เราก็จะเปลี่ยนตำแหน่งไปอีก เช่น ตำแหน่ง ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นคนไข้ของคุณหมอ และก็อีกเพียงไม่นาน ก่อนที่เราจะสิ้นสุดการเดินทางในชีวิคของเราลง... และนั่นคือชีวิตนักเดินทาง ให้ทุกๆ การเดินทางของเรา มีความสุขก็เพียงพอ
วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2565
คน 3 วัย กับ เงื่อนไข 3 อย่าง
เมื่อช่วงวันเฉลิมฯ 28 ก.ค ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนกับคนที่อยู่ในซอยบ้านเดียวกัน ซึ่งเมื่อปลายปีที่แล้วก็ได้ไปด้วยกันมาครั้งนึงแล้วที่ปากช่อง ซึ่งไปค้างด้วย 1คืน แต่ครั้งนี้เป็นการไปแบบ เช้า เย็นกลับ เพราะว่าแต่ละคนมีภาระหน้าที่ที่จะต้องทำ และไม่ได้หยุดงานในวันศุกร์ด้วย โดยนัดกันตอนเช้า ว่าจะพาเด็กๆ ไปเล่นน้ำตก ที่แถวนครนายก
ปกติครอบครัวของปู่จะไม่ค่อยชอบเทียวเท่าไหร่ ทำแต่งานเพราะปู่จะทำงานคนเดียวและเข้ากะ เป็นสัปดาห์สลับไปมา เช้ากับดึก เลยไม่ค่อยมีเวลาที่ตรงกัน แต่ครั้งนี้กลับเป็นตัวตั้งตัวทีที่อยากไปก็เลยงงๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ไปก็ไป แค่นครนายก ก็ไม่ไกลมากจากบ้าน แค่ 70-80กม.
เราไปถึงที่วังตะไคร้ ประมาณเที่ยง ซึ่งเด็กๆ ก็เริ่มเล่นน้ำกันเลยทีเดียว น้ำค่อนข้างไหลแรงแต่ว่าไม่ลึกมาก ประมาณ ต้นขาไม่ถึงเอว น้ำเย็นมาก พอเล่นน้ำซักพักก็ขึ้นมานั่งกินข้าวและเครื่องดื่มกันเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ก็ได้นั่งคุยกับปู่ ว่าปกติไม่เห็นจะไปเที่ยวไหนเลย ทำไมงานนี้ถึงเป็นตัวตั้งตัวตีที่อยากมา
ปู่ก็บอกว่าหลานออกเล่นน้ำตก จากนั้นแกก็เล่าให้ฟังว่าหลังจ
ากที่แกเกือบตายจากโควิด เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่นอนอยู่ในห้อง ICU แกคิดเยอะมาก เรื่องที่ผมเคยเล่าให้แกฟัง เรื่อง
"คน 3วัย กับ 3เงือนไข" ก็เข้ามาอยู่ในหัวแกด้วย พอแกหายออกมาได้ แกก็คิดว่าควรจะหาโอกาสเที่ยวทุกครั้งที่มีเวลา รวมถึงได้สร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้หลานแกด้วย แกคงจะไม่รอให้เกษียณแล้วค่อยเที่ยวแล้ว
คน 3วัย กับ 3เงือนไขก็คือ
วันเด็ก ==== มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน เลยไม่ได้เที่ยว
วัยผู้ใหญ่ == มีแรง มีเงิน แต่ไม่มีเวลา เลยไม่ได้เที่ยว
วัยชรา ==== มีเงืน มีเวลา แต่ไม่มีแรง เลยไม่ได้เที่ยว
แกบอกว่าหลังจากที่แกหายจากโควิดแล้ว แกกลับไปตรวจซ้ำตามที่หมอนัด ปรากฎว่าปอดซ้ายล่างแกขาวไปหมดเลย น่าจะเป็น ลองโควิด ซึ่งแกเองก็รู้สึกอยู่ เพราะทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อยไม่ค่อยเหมือนเดิม ดังนั้นถ้ามีเวลาตอนนี้แกก็อยากจะหาความสุขให้กับชีวิต เที่ยวบ้าง กินบ้าง ไม่อยากเก็บเงินอย่างเดียวแล้วค่อยเทียวตอนแก่แล้ว
By: K.C.A.N