วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2565

รู้จักกับเครื่อง AED (Automatic External Defibrillator)

หลายคนอาจจะรู้จัก และคุ้นเคยกับเครื่อง AED นี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในวงการแพทย์ วงการกู้ชีพฉุกเฉิน แต่ผมเชื่อว่ายังเป็นคนส่วนน้อยของสังคมที่รู้จักกับเจ้าเครืองนี้ และรู้ถึงความสำคัญและใช้งานเจ้าเครื่องนี้เป็น แต่คนส่วนใหญ่ในสังคมผมเชื่อว่าไม่รู้จักกับเจ้าเครื่องนี้เลย และให้ความสำคัญกับเจ้าเครื่องนี้น้อยมากๆ เพราะคิดเสมอว่าเป็นเครืองมือทางการแพทย์ และคนที่ใช้ก็ควรจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก


AED (Automatic External Defibrillator) หรือเครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดกึ่งอัตโนมัติ และ/หรืออัตโนมัติ 100% คือเครื่องที่จะช่วยวินิจฉัยและช่วยชีวิตผู้ป่วยที่เกี่ยวกับโรคหัวใจฉับพลัน ด้วยการช็อตไฟฟ้า ทำให้สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้

ปัจจุบันเราจะเห็นว่ามีตู้เก็บเครื่อง AED และป้ายแสดงตำแหน่งการวางเครื่องในหลายๆ พื้นที่สาธารณะ เช่น ห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่สนามบิน และอื่นๆ กันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีซักกี่คนที่รู้ว่ามันใช้งานยังไง เวลาที่พบผู้ป่วยล้มลงหมดสติอยู่ตรงหน้า...

ถ้าหากว่าคุณพบคนใกล้ตัว เพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้อง หรือใครก็ไม่รู้ ล้มลง และหมดสติอยู่ตรงหน้า สื่งที่คุณต้องรีบทำคือ ดูอาการของผู้ป่วยคนดังกล่าวก่อนว่าเขายังหายใจเป็นปกติอยู่หรือเปล่า หรือหยุดหายใจ หรือมีอาการหายใจแบบที่เราเรียกว่า เฮือก คือคนใจสิ้นลมหายใจแล้ว...

จากนั้นสิ่งที่คุณต้องรีบทำคือ การขอความช่วยเหลือจากคนแถวๆ นั้น ด้วยการตะโกนออกไปดังๆ "ช่วยด้วย ช่วยด้วย มีคนหมดสติ ช่วยโทร 1669 หาเครื่อง AED มาด้วย"  

ทั้งนี้การโทรแจ้ง 1669 จะต้องแจ้งพิกัดหรือตำแหน่งที่เกิดเหตุให้เจ้าหน้าที่ทราบอย่างชัดเจนด้วย เพื่อความรวดเร็วในการเข้าถึงจุดเกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ และเราจะต้องทำการช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อนที่ เจ้าหน้าที่จะมาถึง ด้วยการทำ CPR (กดหน้าอก) หรือ อย่างน้อยก็ทำหน้าที่ติด PAD ของเครื่อง AED เข้ากับตัวผู้ป่วย และให้เครื่อง AED ทำหน้าที่ช่วยชีวิตผู้ป่วยไปเรื่อยๆ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง

คลิป VDO การใช้งานเครื่อง AED

ในบล๊อกนี้ เราจะพูดกันถึงรายละเอียดของเครื่อง AED กันว่าถ้าหากเราจะเลือกซื้อเครื่อง AED ซักเครื่อง เราควจจะต้องรู้อะไรบ้าง

1) ลักษณะการทำงาน เครื่อง AED ในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น 2ประเภทดังนี้
    1.1) แบบกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งจะเหมาะกับบุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานกู้ชีพ ที่ได้รับการฝึกอบรม จุดสังเกตุของรุ่นกึ่งอัตโนมัติคือ มีปุ่มปล่อยพลังงานไฟฟ้า คือเวลาจะปล่อยพลังงานออกมาช๊อตผู้ป่วย จะต้องทำการกดปุ่มช๊อตทุกครั้ง 
ข้อดี คือปลอดภัยกับผู้ใช้  เพราะเวลาจะปล่อยพลังงานเพื่อช๊อตผู้ป่วย ผู้ใช้จะเป็นคนกดปุ่ม
ข้อเสีย คือถ้าคนทั่วๆ ไป อาจไม่ได้กด (ลืม) หรือไม่กล้ากดปุ่มปล่อยพลังงานออกมาช๊อตผู้ป่วย
    1.2) แบบอัตโนมัติ จะเหมาะกับคนทั่วๆ ไป (ภาคประชาชน)  บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานกู้ชีพ ที่ได้รับการฝึกอบรม จุดสังเกตุของรุ่นอัตโนมัติคือ ไม่มีปุ่มปล่อยพลังงานไฟฟ้า คือเวลาจะปล่อยพลังงานออกมาช๊อตผู้ป่วย  จะแจ้งด้วยภาพและเสียงจากนั้นจะปล่อยพลังงานออกมาช๊อตเองโดยอัตโนมัติ 
ข้อดี คือเครื่องจะปล่อยพลังงานออกมาช๊อตผู้ป่วยเองโดยอัตโนมัติ ถ้าวิเคราะห์แล้วว่าเกิดจากปัญหาการเต้นของหัวใจ และจะทำซ้ำไปเรื่อยๆ เองจนกว่าหัวใจผู้ป่วยจะกลับมาเต้นอีกครั้ง
ข้อเสีย คือความปลอดภัย คือต้องตั้งใจฟังสิ่งที่เครื่องแจ้งออกมาตลอดเวลา เพราะเวลาที่เครื่องปล่อยพลังงานออกมาช๊อตผู้ป่วย แล้วมีใครแตะตัวผู้ป่วยอยู่ก็อาจถูกไฟช๊อตได้

คุณลักษณะที่สำคัญในการเลือกเครื่อง AED

2) เทคโนโลยี่การวิเคาระห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจ จะต้องการผ่านมาตราฐานต่างๆ ที่กำหนดเอาไว้โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น AHA, ERC, หรือ อย. เป็นต้น
3) รูปแบบของคลื่นไฟฟ้าที่ปล่อยออกไปช๊อตผู้ป่วยว่าเป็นแบบ Biphasis (ฺBTe) หรือไม่  
4) พลังงานที่ปล่อยออกมากระตุกไฟฟ้าหัวใจ ว่ามากน้อยเท่าไหร่ (หน่วยวัดเป็น จูล) 
5) ความเร็วในการช๊อตในครั้งแรก หลังเปิดเครื่อง จนถึงพร้อมช๊อตว่าใช้เวลาสั้นเท่าไหร่ (หน่วยวินาที)
6) ความทนทานของแบตเตอรี่ ว่ามีความจุเท่าไหร่ ใช้งานได้กี่ครั้ง (กี่ช๊อต) ที่พลังงานเท่าไหร่
7) การแสดงความพร้อมใช้งานของเครื่อง แสดงอย่างไร เห็นชัดเจนหรือไม่ ถ้าแบตฯ ใกล้หมดมีการแจ้งเตือนมั๊ย อย่างไร
8) การรับประกันตัวเครื่องพร้อมวัสดุสิ้นเปลืองต่างๆ เช่นแบตเตอรี่ และ PAD เป็นต้น
9) สถานที่ที่ใช้เครื่อง เช่นความสูงเหนือระดับน้ำทะเล บนภูเขา บนเครื่องบิน บนเฮลิคอปเตอร์ หรือบนรถฉุกเฉิน ซึ่งจะมีมาตราฐานการทดสอบต่างๆ รองรับเอาไว้ ว่าสามารถผ่านทุกมาตราฐานหรือไม่
10) การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใช้เครื่อง เช่น ภาษาที่ให้การช่วยเหลือเลือกได้กี่ภาษา ภาพประกอบ และอื่นๆ 

11) มีสัญญาณนาฬิกาบอกความถี่เพื่อช่วยในการกดหน้าอกผู้ป่วยหรือไม่
12) มีการบันทึกข้อมูลต่างๆ ในการใช้เครื่องหรือไม่
13) เครื่องสามารถทดสอบตัวเองว่ายังพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลาหรือไม่
14) ผ่านมาตราฐานการตกกระแทกที่ความสูงเท่าไหร่ และผ่านกี่ด้าน ?
15) ผ่านมาตราฐานกันน้ำ กันฝุ่น หรือไม่
16) สามารถใช้กับเด็กได้ด้วยหรือไม่
17) ราคาเครื่อง และราคาวัสดุสิ้นเปลืองต่างๆ
18) รูปร่าง และน้ำหนักของเครื่อง


วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2565

วันแม่ 2565

 


วันแม่ 2565 อีกหนึ่งเทศกาลที่ได้ไปเที่ยวกันครบครอบครัว โดยคุณภรรยาเป็นตัวตั้งตัวตีในการไปในครั้งนี้ จุดหมายก็คือ ไร่สายธารา รีสอร์จ ต.ชะอม อ.แก่งคอย สระบุรี  อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ จากทางรีสอร์จนะครับ


แค่เราไปมากันจริงๆ โดยที่ลูกสาว 2คนเป็นคนหาสถานที่ และภรรยาเป็นคนดำเนินการ ในฐานะแม่ของลูกทั้ง 2คน ส่วนผมก็มีหน้าที่ชวนแม่ผม ขอให้ไปเที่ยวด้วย เพราะว่าเขาไม่อยากจะไปเพราะบอกว่าไปนอนที่อื่น ที่ไม่ใช่บ้านแล้วนอนไม่หลับ แต่ก็ต้องพยายามชวนจนแกยอมไปในฐานะแม่ของลูกอย่างผม


เราออกเดินทางกันเที่ยงๆ ของวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งก็เป็นวันแม่แห่งชาติ และก็ตรงกับวันสาร์ทจีนด้วย โดยตอนเช้า เราก็ไหว้พ่อผมอยูที่บ้านก่อน จนประมาณ 11โมงเช้า ก็เก็บของ อาบน้ำแต่งตัวและเดินทาง


ซึ่งระยะทางจากบ้านผมไปถึงที่รีสอร์ท ถ้าเป็นแบบปกติ ก็น่าจะชั่วโมงเศษๆ แต่ว่าวันที่เดินทางช่วงนั้นฝนตกอย่างหนักแทบจะตลอดทาง จากอำเภอหินกอง  ไปจนถึงรีสอร์ทเลยทีเดียว ไม่ใช่ตกเบาๆ นะครับ แต่ตกอย่างแรงเลยทีเดียวเชียว 


จนทำให้วันแรกเราทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากจะถ่ายรูปอยู่ในห้อง หรือว่าหน้าห้องเท่านั้น เพราะฝนตกตลอด มีหยุดบ้างแต่ก้แป๊บเดียวแล้วก็ตกลงมาใหม่ เบาบ้าง แรงบ้างสลับไป เลยกลัวว่าแม่จะไม่สบายและติดเชื้อโควิด-19 ด้วย 


ช่วงเย็นๆ ก็นั่งล้อมวงกินหมู่กะทะกัน โดยสั่งจากในรีสอร์จนี่แหละครับ เพราะเขามีบริการอยู่ โดยราคาก็ชุดละ 300บาท เรียกว่าแพงกว่าข้างนอกเล็กน้อย แต่ก็อยู่ในช่วงราคาที่ยอมรับได้ ก็เลยสั่งมา 2ชุด 600บาท หาร 6คนก็คนละ 100เอง จากนั้นก็มอบของขวัญวันแม่ของลูกสาว 555 คำเติอน การดื่มสุรา ทำให้ความสามารถหลายๆ อย่างลดลง 


เช้าวันที่ 2 อากาศเปิด ก็เลยชวนแม่ผม ออกไปเดินสำรวจรอบๆ รีสอร์จกัน ซึ่งก็จมีลูกสาวคนที่ 2 ออกไปเดินด้วย ในขณะที่คนอื่นอาบน้ำแต่งตัวกันอยู่




ก่อนที่จากออกเดินทางจากที่พัก เพื่อไปแวะหาข้าวเช้า + เที่ยง และกาแฟกินกันต่อที่ร้าน รติ-ชา ร้านอาหารเล็กๆ ในทุ่งกว้างๆ ย่านองครักษ์ บรรยากาศดีเลยครับ เป็นร้านอาหารชาวมุสลิมที่อร่อยมากๆ ทั้งก๊วยเตียวไก่ โรตี และอื่นๆ



ความสุขง่ายๆ รอบๆ ตัว แถมยังได้ช่วยชาวบ้านอีกด้วย

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ชีวิคคนเราก็เพียงนักเดินทาง...

มีคนบอกว่า เราทุกคนเป็นนักเดินทางตลอดช่วงชีวิต 

  สงสัยไหมครับทำไมเขาถึงบอกแบบนั้น ที่เขาบอกก็คือเราเดินทางรอบดวงอาทิตย์ หนึ่งรอบในทุกปี ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงเลยใช่ไหมครับ ว่าแต่คุณเดินทางรอบดวงอาทิตย์กันมาแล้วกี่รอบ ?  และการเป็นนักเดินทางที่ดีก็คือ ต้องไม่แบกอะไรติดตัวเราไปมากนัก ต้องทำตัวให้สบายๆ ถ้ามีอะไรหนักเกินไปก็วางลง หรือทิ้งมันไปซะ เพราะมันจะเป็นอุปสรรคในการเดินทางอย่างมาก อย่าแบกทุกอย่างไปตลอดชีวิต  เพราะมันก็จะหนักมาก


  การเป็นนักเดินทางเวลาที่เราไปนอนค้างที่ใด เวลาที่ได้ห้องพักที่ดี เราก็นอนกันไปปกติ แต่ถ้าได้ห้องที่ไม่ดี ก็อย่าไปตีโพยตีพาย ให้คิดซะว่านอนคืนเดียว เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็ไปแล้ว โดยสิ่งที่คนที่เล่าเรื่องต้องการที่จะเปรียบเทียบก็คือ ชีวิตของคนเรา


  ว่าชีวิตคนเราเหมือนคนเดินทาง อย่าไปจริงจังอะไรมากนัก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ทุกอย่างที่เราเดินทางผ่านในชีวิตของเราจะเป็นเรื่องชั่วคราวทุกอย่าง ช่วงเวลาเดินทางในวัยเด็ก เราจะมีตำแหน่งเป็นลูก ของพ่อแม่ เป็นลูกศิษย์ของ ครูบาอาจารย์ จนกระทั่งเวลาที่เดินทางมาเป็นวัยทำงาน เราก็จะมีตำแหน่งต่างๆ ตามอาชีพ เมื่อแต่งงาน ก็จะมีตำแหน่ง สามี ภรรยา  พอเราเดินทางมาจนเรามีลูก เราก็จะมีตำแหน่ง พ่อ หรือแม่ 


  จากนั้นพอเราเดินทางมาสู่วัยชรา เราก็จะเปลี่ยนตำแหน่งไปอีก เช่น ตำแหน่ง ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นคนไข้ของคุณหมอ และก็อีกเพียงไม่นาน ก่อนที่เราจะสิ้นสุดการเดินทางในชีวิคของเราลง... และนั่นคือชีวิตนักเดินทาง ให้ทุกๆ การเดินทางของเรา มีความสุขก็เพียงพอ 

By: KCAN

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2565

คน 3 วัย กับ เงื่อนไข 3 อย่าง

    เมื่อช่วงวันเฉลิมฯ 28 ก.ค ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนกับคนที่อยู่ในซอยบ้านเดียวกัน ซึ่งเมื่อปลายปีที่แล้วก็ได้ไปด้วยกันมาครั้งนึงแล้วที่ปากช่อง ซึ่งไปค้างด้วย 1คืน แต่ครั้งนี้เป็นการไปแบบ เช้า เย็นกลับ เพราะว่าแต่ละคนมีภาระหน้าที่ที่จะต้องทำ และไม่ได้หยุดงานในวันศุกร์ด้วย โดยนัดกันตอนเช้า ว่าจะพาเด็กๆ ไปเล่นน้ำตก ที่แถวนครนายก 

  ปกติครอบครัวของปู่จะไม่ค่อยชอบเทียวเท่าไหร่ ทำแต่งานเพราะปู่จะทำงานคนเดียวและเข้ากะ เป็นสัปดาห์สลับไปมา เช้ากับดึก เลยไม่ค่อยมีเวลาที่ตรงกัน แต่ครั้งนี้กลับเป็นตัวตั้งตัวทีที่อยากไปก็เลยงงๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ไปก็ไป แค่นครนายก ก็ไม่ไกลมากจากบ้าน แค่ 70-80กม.


    เราไปถึงที่วังตะไคร้ ประมาณเที่ยง ซึ่งเด็กๆ ก็เริ่มเล่นน้ำกันเลยทีเดียว น้ำค่อนข้างไหลแรงแต่ว่าไม่ลึกมาก ประมาณ ต้นขาไม่ถึงเอว น้ำเย็นมาก พอเล่นน้ำซักพักก็ขึ้นมานั่งกินข้าวและเครื่องดื่มกันเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ก็ได้นั่งคุยกับปู่ ว่าปกติไม่เห็นจะไปเที่ยวไหนเลย ทำไมงานนี้ถึงเป็นตัวตั้งตัวตีที่อยากมา

  ปู่ก็บอกว่าหลานออกเล่นน้ำตก จากนั้นแกก็เล่าให้ฟังว่าหลังจ
ากที่แกเกือบตายจากโควิด เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่นอนอยู่ในห้อง ICU แกคิดเยอะมาก เรื่องที่ผมเคยเล่าให้แกฟัง เรื่อง

  "คน 3วัย กับ 3เงือนไข" ก็เข้ามาอยู่ในหัวแกด้วย พอแกหายออกมาได้ แกก็คิดว่าควรจะหาโอกาสเที่ยวทุกครั้งที่มีเวลา รวมถึงได้สร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้หลานแกด้วย แกคงจะไม่รอให้เกษียณแล้วค่อยเที่ยวแล้ว 

คน 3วัย กับ 3เงือนไขก็คือ

วันเด็ก ==== มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน เลยไม่ได้เที่ยว

วัยผู้ใหญ่ == มีแรง มีเงิน แต่ไม่มีเวลา เลยไม่ได้เที่ยว

วัยชรา ==== มีเงืน มีเวลา แต่ไม่มีแรง เลยไม่ได้เที่ยว


   แกบอกว่าหลังจากที่แกหายจากโควิดแล้ว แกกลับไปตรวจซ้ำตามที่หมอนัด ปรากฎว่าปอดซ้ายล่างแกขาวไปหมดเลย น่าจะเป็น ลองโควิด ซึ่งแกเองก็รู้สึกอยู่ เพราะทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อยไม่ค่อยเหมือนเดิม ดังนั้นถ้ามีเวลาตอนนี้แกก็อยากจะหาความสุขให้กับชีวิต เที่ยวบ้าง กินบ้าง ไม่อยากเก็บเงินอย่างเดียวแล้วค่อยเทียวตอนแก่แล้ว 

By: K.C.A.N