การใช้แอนติบอดีจากผู้อื่นเพื่อรักษาการติดเชื้อ Acinetobacter baumannii เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับ การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันแบบพาสซีฟ ซึ่งหมายถึงการถ่ายโอนแอนติบอดีจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งเพื่อช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อ วิธีนี้สามารถทำได้ในรูปแบบของ พลาสม่าฟื้นตัว (convalescent plasma) หรือ แอนติบอดีโมโนโคลนอล (monoclonal antibodies)
พลาสม่าฟื้นตัว:
พลาสม่าฟื้นตัวคือพลาสม่าจากเลือดที่เก็บมาจากบุคคลที่หายจากการติดเชื้อและพัฒนาแอนติบอดีต่อเชื้อโรคนั้น ๆ พลาสม่านี้จะถูกถ่ายโอนให้ผู้ป่วยที่กำลังต่อสู้กับการติดเชื้อเพื่อเพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ในทฤษฎีวิธีนี้สามารถนำมาใช้กับการติดเชื้อ A. baumannii หากบุคคลนั้นมีแอนติบอดีที่แข็งแกร่งต่อแบคทีเรีย อย่างไรก็ตามวิธีนี้นิยมใช้ในการรักษาการติดเชื้อไวรัส เช่น COVID-19 และยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น A. baumannii
แอนติบอดีโมโนโคลนอล:
แอนติบอดีโมโนโคลนอล (mAbs) เป็นโมเลกุลที่ผลิตในห้องปฏิบัติการซึ่งเลียนแบบความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับเชื้อโรค นักวิจัยกำลังสำรวจการพัฒนาแอนติบอดีโมโนโคลนอลที่มีเป้าหมายเฉพาะ A. baumannii แอนติบอดีเหล่านี้อาจถูกใช้เพื่อทำให้แบคทีเรียหมดฤทธิ์หรือตอบสนองระบบภูมิคุ้มกันให้กำจัดเชื้อโรคได้ดีขึ้น แม้ว่าจะยังอยู่ในขั้นทดลอง แต่วิธีการนี้มีแนวโน้มที่จะช่วยรักษาแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ
ความท้าทาย:
- การดื้อยาปฏิชีวนะ: หนึ่งในเหตุผลที่การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันแบบพาสซีฟถูกสำรวจคือ A. baumannii มักดื้อต่อยาปฏิชีวนะแบบดั้งเดิม แต่การใช้แอนติบอดีอาจเลี่ยงปัญหาการดื้อนี้ได้
- ความพร้อมใช้งาน: การหาผู้ที่มีแอนติบอดีต่อ A. baumannii โดยเฉพาะอาจเป็นเรื่องยาก
- ประสิทธิภาพ: ความสำเร็จของการรักษานี้ขึ้นอยู่กับความแรงของแอนติบอดี, ช่วงเวลาที่ได้รับการรักษา, และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
วิธีการทำงานของ Antibody Therapy :
- แอนติบอดี: เป็นโปรตีนที่ระบบภูมิคถ้มกันสร้างขึ้นเพื่อจดจำแลทำลายเชื้อโรค เช่นแบคทีเรีย และไวรัส
- Passive immunotherapy: คือการให้แอนติบอดีโดยตรงกับผู้ป่วย แทนที่จะรอให้ร่างกายของผู้ป่วยสร้างแอนตี้บอดี้เองเมื่อเกิดการติดเชื้อ แอนติบอดีเหล่านี้ อาจได้มาจาก เลือดของผู้ที่หายจากการติดเชื้อ (เช่น convalescent plasma) หรือถูกสร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการ
- Acinetobacter baumannii: เป็นเชื้อแบคทีเรียที่มีความอันตรายเนื่องจากมันสามารถต้านทานยาปฏิชีวนะหลายชนิดได้ ทำให้นักวิจัยต้องค้นหาวิธีการรักษาอื่นๆ รวมถึงการใช้แอนติบอดี้
- Monoclonal antibodies (แอนติบอดี้ที่ผลิตในห้องปฎิบัติการ เพื่อเจาะจงเป้าหมายบางส่วนของแบคทีเรีย) กำลังถูกพัฒนาเพื่อเป้าหมายเฉพาะเจาะจงกับ Acinetobacter baumannii แอนติบอดี เหล่านี้สามารถจับกับแบคทีเรียเพื่อทำลายหรือทำให้สารพิษที่แบคทีเรียผลิตขึ้นไม่ทำงาน
- Convalescent plasma therapy ซึ่งใช้พลาสม่าที่มีแอนติบอดีจากผู้ที่หายจากการติดเชื้อแล้ว มาให้กับผู้ป่วย ก็เป็นแนวที่อยู่ในขั้นตอนการศึกษา แต่ยังพบการใช้มากกว่าในกรณีของการติดเชื้อไวรัส เช่น COVID-19
- ในปัจจุบันการรักษาด้วยแอนติบอดีสำหรับ Acinetobacter baumannii ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและการทดลองมีการศึกษาก่อนคลีนิก และการทดลองทางคลีนิกในระยะเริ่มต้น แต่ว่ายังต้องการการวิจัยเพิ่มเติม ก่อนที่จะสามารถนำมาใช้ทั่วไปได้
- ในกรณีที่แบคทีเรียต้านทานยาปฎิชีวนะ อย่างรุนแรง การรักษาด้วยแอนติบอดีอาจถูกใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ เช่น การใช้ยาปฎิชีวนะ หรือ phage therapy เพื่อปรับปรุงผลการรักษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น